ที่ประชุม ก.ตร.มีมติแต่งตั้ง ผบช. ตามข้อเสนอที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการคัดเลือก ก.พ.4 ตำแหน่งก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.วินัย โยกสลับนั่ง บช.ภ.1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ผงาดผบช.น.เต็มตัว พล.ต.ต.ปริญญา ข้ามห้วยนั่งรอง ผบช.น. เด้ง พล.ต.ต.วิชัยเข้ากรุนั่งรองจเรตำรวจ
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายพลนอกวาระประจำปี นานกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า ช่วงเช้าวันนี้ก่อนประชุม ก.ตร. ได้มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยวาระสำคัญเรื่องการกำหนดตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษเทียบเท่าผู้บังคับการ 14 ตำแหน่ง และเปิดตำแหน่งผู้บังคับการสกัดกั้นยาเสพติด 1 ตำแหน่งซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการกำหนดตำแหน่ง ตามที่กำหนดรวม 15 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งพนักงานสอบสวนได้มอบให้ทางตร.ไปออกหลักเกณฑ์การประเมินมาให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนกรณีการแต่งตั้งผู้บังคับกองการสกัดกั้นยาเสพติด ต้องผ่านกฤษฎีกาเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีต่อไป
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ ตร.ไปทำแผนปฏิบัติการ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ตามยุทธศาสตร์ 4 ด้าน ที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล โดยได้มีข้อสั่งการเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอาวุธปืน ซึ่ถือว่าอาชญากรรมหลายอย่างมีการใช้อาวุธปืนดังกล่าว โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีพอใจในผลการดำเนินการยกเลิกการสอบที่มีการทุจริตมากมาย รวมทั้งได้กล่าวการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลร่วมกับผู้บังคับการจังหวัดนั้น ต้องเข้าไปคลี่คลายปัญหาตั้งแต่ต้น อย่างการปิดถนนชุมนุมต้องมีการปฏิบัติตามกติกา โดยส่งตัวแทนเข้ามาเจรจา หากไม่ปฏิบัติตามดังกล่าวมาให้บังคับใช้กฎหมายได้ทันที ส่วนกรณีการบริหารจัดการน้ำนายกรัฐมนตรีขอให้ตำรวจร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ช่วยกันแก้ปัญหาต่อไป
สำหรับผลสรุปการประชุมก.ตร.นั้น พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับพนักงานสอบสวน โดยในที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการกำหนดหลักสูตรของพนักงานสอบสวนทุกระดับ เริ่มตั้งแต่จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจหรือจบการอบรมมาต้องได้ใบประกอบวิชาชีพพนักงานสอบสวนจนถึงหลักสูตรผู้บังคับการ เบื้องต้นหากการอบรมหลักสูตรพนักงานสอบสวน (สบ 6) ผู้เชี่ยวชาญเทียบเท่าผู้บังคับการ ถ้ายังมีจำนวนไม่เพียงพอให้ไปเรียนร่วมกับหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงก่อน นอกจากนี้ ก.ตร.มีการหารือปรับปรุงตำแหน่งพนักงานสอบสวนให้เป็นไปตามศาลปกครองสั่ง แต่อาจจะขอขยายเวลาการบังคับใช้
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อไปว่า วันนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้เสนอบัญชีแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการคัดเลือก โดยมีนายนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และ พล.ต.อ.ปานศิริ เป็นประธานในการพิจารณานั้น ที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้ง พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ย้ายไปดำรงตำแหน่งเป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. เป็น ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น.ย้ายไปดำรงตำแหน่งรองจเรตำรวจ (สบ 7) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.ภ.1 ย้ายไปดำรงตำแหน่งเป็นรอง ผบช.น.
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ และให้ประธาน ก.ตร.นำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ เพื่อดำรงตำแหน่งต่อไป ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ทั้งหมด อีก 3 แหน่ง ได้แก่ รอง ผบช.ก. 1 ตำแหน่ง รอง ผบช.ภ.1 2 ตำแหน่ง และอื่นๆ ให้ไปรวมในการแต่งตั้งวาระประจำปีต่อไป
นอกจากนี้ ก.ตร.ให้เห็นชอบตามความเห็นของอนุฯ ก.ตร.อุทธรณ์ที่ให้ยกคำร้องของ พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกันฐี ผบก.น.3 และพวก 17 คน หลังจากทั้งหมดได้ถอนการร้องทุกข์ และให้ยกคำร้อง พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย อดีตผบช.ภ.2 เนื่องจากเกษียณอายุราชการไปแล้ว
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า ระหว่างรอโปรดเกล้าฯ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ได้ลงนามคำสั่งให้นายตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งทั้ง 4 คน ไปช่วยรักษาราชการแทนในตำแหน่งที่ ก.ตร.ได้มีมติอนุมัติแต่งตั้ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.เป็นต้นไป
