ตำรวจ ปคม.บุกจับกุมสองนายหน้าค้ามนุษย์ หลังได้รับร้องเรียนจากมูลนิธิปวีณาฯ ว่าเด็กหญิงหายไปจากบ้าน พบถูกล่อลวงไปขายบริการทางเพศตามโรงแรมใน อ.แกลง จ.ระยอง
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. และนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายสิทธิชัย อินทะนาม อายุ 21 ปี สาวประเภทสอง และนางกัญณัฏฐ์ สง่าเมือง อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาล่อลวงเด็กหญิงค้าประเวณี พร้อมของกลาง ยาบ้า 1 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เงินสด 2,200 บาท อุปกรณ์ในการเสพยาบ้า สมุดบัญชีรายชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ลูกค้าจำนวนมาก
พล.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานงานจากมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ให้ช่วยติดตามหาตัว ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ซึ่งหายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนางพิสมัย ขอสงวนนามสกุล มารดาของ ด.ญ.เอ แจ้งให้ติดตามหาตัวบุตรสาว จากการสืบสวนพบว่า ด.ญ.เอได้หลบหนีออกจากบ้านถูกล่อลวงมาขายบริการตามโรงแรมต่างๆ ใน อ.แกลง จ.ระยอง โดยมาพักอยู่กับนายสิทธิชัย ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง จากนั้นนายสิทธิชัยจะติดต่อหาลูกค้า และส่ง ด.ญ.เอให้ไปขายบริการทางเพศตามโรงแรมต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนติดต่อให้นายสิทธิชัยส่ง ด.ญ.มาขายบริการทางเพศ แต่ขณะที่ ด.ญ.เอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเกิดความกลัววิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามจนพบว่า อยู่ในห้องพักเลขที่ 12 อาคารโฮมเท็นเตอร์ ห้องพัก 24 ชม. ต.เขาดิน อ.แกลง จ.ระยอง และพบตัวนายสิทธิชัย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวนายสิทธิชัยได้พร้อมของกลางยาบ้า 1 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ ทั้งนี้ จากการสอบถาม ด.ญ.เอ ทราบว่า ถูกนายสิทธิชัยหลอกลวงให้ค้าประเวณีตามโรงแรมต่างๆ โดยขายบริการในราคาครั้งละ 1,500 บาท ซึ่งนายสิทธิชัยจะให้เงินตนแต่ละครั้งๆ ละ 800 บาท ซึ่งมีการนำยาบ้ามาให้เสพด้วย
“นอกจากนี้ ด.ญ.เอยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีนางกัญณัฏฐ์อีกคนที่คอยจัดหาแขกมาให้ด้วย โดยเรียกราคา 1,500 บาทเท่ากัน แต่ตนจะได้ส่วนแบ่งแค่ 600 บาทเท่านั้น และนางกัญณัฏฐ์ยังพา ด.ญ.บี อายุ 14 ปี มาขายบริการทางเพศเช่นตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตามจับกุมตัวนางกัญณัฏฐ์ได้ที่โรงแรมช่อทิพย์ อ.แกลง จ.ระยอง โดยพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศ” ผบก.ปคม.กล่าว
พล.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า จากการสอบสวนทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าได้หลอกให้เด็กทั้งสองคนไปค้าประเวณีจริง โดยนายสิทธิชัยให้การว่ามีเด็กในสังกัดเป็นจำนวนมาก และจะพาเด็กมาขายตัวตามโรงแรมต่างๆ พอแขกที่มาพักตามโรงแรมต้องการซื้อบริการทางเพศ ตนก็จะพาเด็กมาให้ เมื่อปี 53 ก็เพิ่งถูกตำรวจ ปคม.จับกุมในข้อหาเดียวกันที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างประกันตัว และหลบหนีคดีอยู่ ก็มาถูกจับอีก หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด และกวาดล้างพวกพาเด็กมาขายประเวณีใน จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ซึ่งมีอยู่มากให้หมดไป จากนั้นแจ้งข้อหาทั้งคู่ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ส่วนนายสิทธิชัยแจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้าน นางปวีณากล่าวด้วยว่า ขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม.ทำงานได้อย่างรวดเร็วจนจับกุมผู้ต้องหา และช่วยเด็กออกมาได้ จึงอยากฝากเตือนผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้โทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ต เพราะจะถูกบุคคลอื่นหลอกลวงได้ง่ายเหมือนกรณีดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 6 และมาตรา 9 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 8 ถึง 15 ปี ปรับตั้งแต่ 160,000 บาท ถึง 300,00 บาท และข้อหา ผู้ใดปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลตามกฎหมายอาญามาตรา 317(85) อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 20 ปี และแจ้งข้อหาเพิ่มนายสิทธิชัยในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนเด็กหญิงเอและเด็กหญิงบี ส่งตัวให้แก่ผู้ปกครอง โดยจะให้นักจิตวิทยาเข้าไปฟื้นฟูสภาพจิตใจต่อไป