คนขับมินิชนแล้วหนีเครียด ส่งทนายขอเลื่อนนัด!

เจ้าของมินิชนพลเมืองดี มอบหมายทนายความเข้าพบ ตร.ขอเลื่อนนัดนำตัวคนขับมินิ เข้าให้ปากคำ ชี้ยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุในวันเกิดเหตุขับรถด้วยความเร็วในช่องซ้ายแต่เห็นรถ 2 คันจอดอยู่ทางซ้าย ก่อนหักหลบเข้าขวาก็เจอกลุ่มผู้บาดเจ็บ จึงเบรกไม่ทัน เบื้องต้นผู้ก่อเหตุพร้อมรับผิดชอบทั้งหมด ขณะที่คนขับพักอยู่ต่างจังหวัดและมีอาการเครียดยังไม่พร้อมให้การ แต่ยันจะเข้าให้ปากคำแน่นอน ด้าน ตร.แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทและหลบหนี โทษคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ 6 พัน


วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Wong Cartoon ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพของ น.ส.โชติกา ประสารโสภณ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์มินิคูเปอร์ ล้อแมกซ์ สีดำ ป้ายแดง ทะเบียน 4721 พุ่งชน ขณะที่ตนเองพร้อมเพื่อนอีก 3 คนลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จากเหตุรถชนกันบนสะพานพระราม 9 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ (19 พ.ค.) ที่ผ่านมา จนกลายเป็นประเด็นดังในสังคมออนไลน์ ล่าสุดทางตำรวจได้พยายามหาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่รถยนต์คันนี้ขับผ่านไป และตรวจสอบไปยังศูนย์นำเข้ารถยนต์มินิคูเปอร์แล้ว แต่การตรวจสอบเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะกล้องวงจรปิดตามทางด่วนอยู่ในมุมสูงไม่สามารถจับป้ายทะเบียนรถได้ อีกทั้งป้ายทะเบียนเป็นป้ายแดงซึ่งอาจเป็นเพียงป้ายสวมทะเบียนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้บาดเจ็บยังไม่ได้สติ สมองถูกกระทบกระเทือน ขาหัก มีเลือดออกในช่องท้อง พักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

โดยวันนี้ นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์ ผู้ขับรถมินิคูเปอร์ และนางหงส์ แซ่ลี้ เจ้าของรถมินิคันดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1 กก.2.บก.จร และพ.ต.ท.กันตภณ สินธวาชีวะ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทางด่วน 1 เพื่อนำหลักฐานใบรับมอบอำนาจจากนางหงส์ แซ่ลี้ เจ้าของรถมินิคูเปอร์คันเกิดเหตุมาแสดงเพื่อแต่งตั้งทนายความ และเลื่อนการเข้าให้ปากคำของนายชลวิทย์ และนางหงส์

นายเกิดผลเปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุนายชลวิทย์ได้ขับรถคันดังกล่าวไปบ้านเพื่อนเพื่อดูฟุตบอล ขากลับก็ได้ขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าวด้วยความเร็วมาทางช่องทางซ้ายสุด เมื่อเห็นรถทั้งสองคันจอดอยู่ทางซ้ายก็ตกใจจึงหักหลบไปทางขวาก็เจอกลุ่มผู้บาดเจ็บ แต่ไม่สามารถเบรกทันเนื่องจากขับมาด้วยความเร็วทำให้พุ่งชนกลุ่มผู้บาดเจ็บ หลังจากเกิดเหตุนายชลวิทย์ยังอยู่ในอาการตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ขับรถออกไปโดยที่ไม่ได้ลงไปช่วยเหลือ

ต่อมา เมื่อนายชลวิทย์กลับไปถึงบ้านนายชลวิทย์ก็ไม่ได้เล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ทางบ้านฟังว่าขับรถชนคน จนกระทั่งเป็นข่าวครึกโครมจึงได้สารภาพกับนางหงส์ ผู้เป็นย่าว่าเป็นผู้ขับรถมินิคูเปอร์ในวันเกิดเหตุจริง และเกิดอุบัติเหตุชนผู้บาดเจ็บจริง แต่ที่ไม่ลงมาช่วยเหลือและขับรถหนีเนื่องจากตกใจที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น

นายเกิดผลกล่าวอีกว่า หลังจากทราบเรื่องนางหงส์ได้มอบหมายให้ตนเป็นทนายความพร้อมกับเข้าเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และอยู่ระหว่างเจรจาการช่วยเหลือเบื้องต้น โดยจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ขณะที่นางหงส์และนายชลวิทย์ขณะนี้พักอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่พร้อมที่จะเข้าให้ปากคำในวันนี้ และขณะนี้นายชลวิทย์นั้นมีอาการเครียดมากอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทั้งสองยืนยันจะเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนอย่างแน่นอน

พ.ต.ท.ณัฐพลเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้นำหลักฐานที่ทางทนายมามอบให้เป็นหลักฐานก่อนจะออกหมายเรียกอีกครั้ง โดยเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งคู่ไม่ได้มีเจตนาหลบหนี หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อตรวจสอบดูว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและหลบหนี โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พัน หรือทั้งจำทั้งปรับ