จับแก๊งนร.นักเลงยิงคู่อริบนรถเมล์ หนุ่มแบงก์ถูกลูกหลงบาดเจ็บ

ตำรวจตามรวบตัวแก๊งนักเรียนช่างยกพวกถล่มคู่อริ ยิงปืนขึ้ันไปบนรถเมล์ เป็นเหตุให้หนุ่มแบงก์ที่โดยสารมาถูกลูกหลงรับบาดเจ็บ

วันนี้ (25 พ.ค.) เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ต่อเกียรติ พรหมบุตร รอง ผกก.สส.สน.บางนา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีกลุ่มนักเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ กว่า 20 คน ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ มีดดายหญ้า แท่งเหล็ก และท่อนไม้ ก่อเหตุทำร้ายนักเรียนโรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ จำนวน 5 คน ที่ โดยสารอยู่บนรถประจำทางสาย 129 บริเวณถนนสุขุมวิท ก่อนถึงแยกบางนา ฝั่งขาเข้า ทำให้ นายทศพล ใจเกื้อ พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่อยู่บนรถเมล์ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (24 พ.ค.) ว่า ภายหลังจากการเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.นฤดล พุ่งพวง และพ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส.สน.บางนา ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และได้ทำการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ

โดยเมื่อเวลาช่วงเย็น วานนี้ (24 พ.ค.) ทางฝ่ายสืบสวนได้ทำการเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหานายเทียน (นามสมมติ)อายุ 17 ปี นักศึกษาปวช. ชั้นปีที่ 2วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ และนายอาร์ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปีนักศึกษาปวช. ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ที่บริเวณด้านหน้า วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ในท้องที่สน.พระโขนง จากนั้นเมื่อเวลา 19.00 น. ได้ติดตามไปจับกุมผู้ต้องหาอีก 1 รายทราบชื่อนายต้น (นามสมมติ) อายุ 16 ปีนักศึกษาปวช. ชั้นปีที่ 2วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ โดยจับกุมได้ในพื้นที่ สภ.บางปู พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ซึ่งขณะกำลังนำอาวุธปืนมาฝากไว้กับนายโน้ต(นามสมมติ) อายุ 16 ปี จากนั้นนำผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมามอบให้พนักงานสอบสวนสน.บางนา

พ.ต.ท.ต่อเกียรติ กล่าวอีกว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้ ส่วนนายต้น เพิ่มอีก 2 ข้อหาคือ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะ ซึ่งวันนี้ทางพนักงานสอบสวนยังคงสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ไม่ได้ เนื่องจากเป็นเยาวชนต้องมีนักสิทธิมนุษยชนเข้ามาทำการสอบสวนด้วย และจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อไตร่สวนคดีตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ซึ่งการไตร่สวนนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีกจำนวนกว่า 10-20 คนจะให้ฝ่ายสืบสวนดูจากกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเพื่อติดตามหาคนร้ายที่เหลือต่อไป

“ส่วนมาตรการการดูแลปัญหานักเรียนนักศึกษามีเรื่องทะเลาะวิวาทกันทางสน.บางนา พร้อมด้วยสน.ในท้องที่ใกล้เคียง และสถาบันการศึกษาในท้องที่ได้มีการเข้าประชุมหารือกันเป็นประจำ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางนา ได้มีการให้สายตรวจคอยเฝ้าระวังจุดล่อแหลมตามป้ายรถเมล์ ตามหน้าโรงเรียนในช่วงเวลาเข้าเรียนและเวลาเลิกเรียน แต่เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดจากช่วงเวลาเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนเวรจึงเกิดเรื่องขึ้นได้” พ.ต.ท.ต่อเกียรติ กล่าว