ตำรวจพญาไทจับหนุ่มบุกเข้าห้องนอนสาวกลางดึก พยายามปลุกปล้ำแต่ไม่สำเร็จ สาวเจ้าฮึดสู้ แล้วเรียกเพื่อนพนักงานผับและคาราโอเกะช่วยกันจับตัวไว้ได้ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ร.ต.ท.นิคม มะโนสุข รอง สวป.สน.พญาไท ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายพยายามจะข่มขืนพนักงานสาวของร้านชบาแดง ถนนราชปรารภ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 1 คูหา ชั้นใต้ดินและชั้น 1 เปิดเป็นผับ ส่วนชั้นที่ 2 เป็นห้องคาราโอเกะ และชั้นที่ 3 เป็นห้องนอนพนักงาน ซึ่งพนักงานของร้านช่วยกันจับตัว นายวิวรรธน์ หรือหนุ่ม บุญร่วม อายุ 29 ปี ชาว อ.หลังสวน จ.ชุมพร เอาไว้ได้ หลังพยายามจะข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี พนักงานของร้านภายในห้องนอนชั้นที่ 3
น.ส.เอ ผู้เสียหายกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนอนอยู่เพียงคนเดียวภายในห้องนอนชั้นที่ 3 โดยปิดประตูห้องไว้แต่ไม่ได้ล็อกเพราะปกติก็จะไม่มีใครเปิดเข้ามาอยู่แล้ว โดยนอนตะแคงข้าง จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาในห้องและตรงมาทางด้านหลัง พอลืมตาก็เห็นเงาคน ตอนแรกคิดว่าเป็นแม่เข้ามาหา พอเพ่งดูก็เห็นเป็นเงาของผู้ชาย จากนั้นนายวิวรรธน์ก็เอามือมาปิดปาก ตนพยายามจะร้องให้คนช่วยจึงถูกชกเข้าที่ท้องอย่างแรง 2 ครั้ง จากนั้นผู้ต้องหาก็พยายามจะถอดเสื้อผ้าตนเพื่อจะข่มขืน ตนจึงฮึดสู้และดิ้นจนหลุดแล้วรีบวิ่งออกมาตะโกนให้พนักงานในร้านช่วย กระทั่งพนักงานวิ่งมาช่วยกันจับกุมตัวนายวิวรรธน์ไว้ได้
หลังเกิดเหตุได้เปิดดูกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่านายวิวรรธน์เข้ามาที่ร้านเพียงคนเดียว เมื่อเข้ามาในร้านแล้วก็ไม่สั่งอะไรเลย แต่กลับพุ่งตรงขึ้นบันไดแล้วบุกขึ้นมาที่ชั้น 3 ทันที ซึ่งชั้นนี้เป็นห้องนอนของพนักงาน พอขึ้นมาแล้วก็เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนตนแล้วลงมือจะข่มขืนตน โชคดีที่แข็งใจฮึดสู้จนหนีออกมาได้ไม่อย่างนั้นคงถูกนายวิวรรธน์ข่มขืนอย่างแน่นอน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าเป็นพนักงานฝ่ายสินเชื่อของธนาคารแห่งหนึ่ง โดยปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนผู้เสียหาย แต่ที่เข้าไปในห้องนอนเพราะคิดว่าเป็นอดีตแฟนเก่า และให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ด้าน ร.ต.ท.นิคมกล่าวว่า เบื้องต้นนายวิวรรธน์ให้การปฏิเสธ จะขอให้การชั้นศาลเท่านั้น โดยหลังจับกุมได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดแต่ก็ไม่พบ และยังพูดจารู้เรื่อง นอกจากนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวนายวิวรรธน์เข้าห้องขัง น้องสาวของนายวิวรรธน์เดินทางมาที่ สน. โดยระบุว่าพ่อของตนเป็นผู้คุมอยู่ที่เรือนจำหลังสวน จ.ชุมพร อยากให้ช่วยพี่ชายไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายให้ ไม่อยากให้พี่ชายถูกดำเนินคดี จึงบอกไปว่านายวิวรรธน์กระทำความผิดจริง ซึ่งมีพยานหลักฐานทั้งจากบุคคลและกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจนจึงแจ้งข้อหาบุกรุกในเวลากลางคืน ทำร้ายร่างกาย และกระทำอนาจาร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีต่อไป