ชุมพร - ตร.ปทส.ลุยตรวจป่าบางน้ำจืด อ.หลังสวน ถูกกลุ่มอิทธิพล บุกรุก จุดไฟเผาจนเตียนโล่งกว่าร้อยไร่ เตรียมปลูกยางพารา ปาล์ม พบหลักฐานตัดไม้หวงห้ามแปรรูปอีกจำนวนมาก
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 เม.ย. พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูลสิทธิ์ ผกก.ปทส.(ป้องกันปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) กองปราบปราม ได้สั่งการให้ ด.ต.ประทิน สวนะทรงธรรม หัวหน้า ชุด ปทส.ชุมพร สนธิกำลังร่วมกับ นายบัญชา ขาวศิริ หน.หน่วยป้องกันปราบปรามป่าไม้ชุมพรที่ ชพ 5 และ ชพ.15 นำกำลังไปตรวจสอบป่าสงวนบางน้ำจืดบริเวณภูเขาทองโขพื้นที่หมู่ 13 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มอิทธิพล และชาวบ้านเข้าไปบุกรุกแผ้วถางเผาป่า และตัดไม่หวงห้ามจำนวนมาก
จากกรตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นป่าภูเขาอยู่ใกล้กับอ่าวหลังสวน และติดกับถนนเลียบชายฝั่งทะเล เจ้าหน้าที่ได้เดินเข้าไปสำรวจห่างจากถนน 500 เมตร พบว่าที่เชิงเขามีพื้นที่กว่า 100 ไร่ ถูกบุกรุกแผ้วถาง จุดไฟเผาจนเตียนโล่ง นอกจากนั้น ยังพบเศษปีกไม้เคี่ยม ไม้กระยาเลย ไม้หวงห้ามอื่นๆ รวมทั้งขี้เลื่อยอีกจำนวนมาก ห่างออกไปราว 50 เมตร เจ้าหน้าที่ได้พบท่อนซุงกว่า 10 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ด.ต.ประทิน สวนะทรงธรรม หัวหน้า ชุด ปทส.ชุมพร กล่าวว่า ได้มีชาวบ้านร้องเรียนไปยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) กองปราบปราม และ นายพินิจ เจริญพานิช ผวจ.ชุมพร ว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลร่วมกับชาวบ้าน เข้าไปบุกรุกแผ้วถางจุดไฟเผาป่า เพื่อยึดครองปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และเตรียมขายต่อให้แก่กลุ่มนายทุน นอกจากนั้น ยังได้ยินเสี่ยงเลื่อยยนต์ตัดไม้หวงห้าม และแปรรูปไม้ออกไปขายกันเกือบทุกวัน หลังรับเรื่องร้องเรียนจึงได้มีการสั่งการให้ตนนำกำลังเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว
ด.ต.ประทิน กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบเป็นจริงตามที่ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียน จากการประเมินเบื้องต้นพื้นที่ถูกบุกรุกได้รับความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท ป่าถูกทำลายจุดไฟเผาจนเตียนโล่ง ซึ่งต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกนาน จึงต้องหามาตรการในการป้องกัน และร่วมกันปลูกป่าถาวรเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าต่อไป พร้อมทั้งติดตามจับกุมกลุ่มผู้มีอิทธิพล และชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกเผาป่า และตัดไม้หวงห้ามมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 เม.ย. พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูลสิทธิ์ ผกก.ปทส.(ป้องกันปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) กองปราบปราม ได้สั่งการให้ ด.ต.ประทิน สวนะทรงธรรม หัวหน้า ชุด ปทส.ชุมพร สนธิกำลังร่วมกับ นายบัญชา ขาวศิริ หน.หน่วยป้องกันปราบปรามป่าไม้ชุมพรที่ ชพ 5 และ ชพ.15 นำกำลังไปตรวจสอบป่าสงวนบางน้ำจืดบริเวณภูเขาทองโขพื้นที่หมู่ 13 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มอิทธิพล และชาวบ้านเข้าไปบุกรุกแผ้วถางเผาป่า และตัดไม่หวงห้ามจำนวนมาก
จากกรตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นป่าภูเขาอยู่ใกล้กับอ่าวหลังสวน และติดกับถนนเลียบชายฝั่งทะเล เจ้าหน้าที่ได้เดินเข้าไปสำรวจห่างจากถนน 500 เมตร พบว่าที่เชิงเขามีพื้นที่กว่า 100 ไร่ ถูกบุกรุกแผ้วถาง จุดไฟเผาจนเตียนโล่ง นอกจากนั้น ยังพบเศษปีกไม้เคี่ยม ไม้กระยาเลย ไม้หวงห้ามอื่นๆ รวมทั้งขี้เลื่อยอีกจำนวนมาก ห่างออกไปราว 50 เมตร เจ้าหน้าที่ได้พบท่อนซุงกว่า 10 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ด.ต.ประทิน สวนะทรงธรรม หัวหน้า ชุด ปทส.ชุมพร กล่าวว่า ได้มีชาวบ้านร้องเรียนไปยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) กองปราบปราม และ นายพินิจ เจริญพานิช ผวจ.ชุมพร ว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลร่วมกับชาวบ้าน เข้าไปบุกรุกแผ้วถางจุดไฟเผาป่า เพื่อยึดครองปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และเตรียมขายต่อให้แก่กลุ่มนายทุน นอกจากนั้น ยังได้ยินเสี่ยงเลื่อยยนต์ตัดไม้หวงห้าม และแปรรูปไม้ออกไปขายกันเกือบทุกวัน หลังรับเรื่องร้องเรียนจึงได้มีการสั่งการให้ตนนำกำลังเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว
ด.ต.ประทิน กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบเป็นจริงตามที่ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียน จากการประเมินเบื้องต้นพื้นที่ถูกบุกรุกได้รับความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท ป่าถูกทำลายจุดไฟเผาจนเตียนโล่ง ซึ่งต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกนาน จึงต้องหามาตรการในการป้องกัน และร่วมกันปลูกป่าถาวรเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าต่อไป พร้อมทั้งติดตามจับกุมกลุ่มผู้มีอิทธิพล และชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกเผาป่า และตัดไม้หวงห้ามมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้