รวบแก๊ง “อิสมอย” ใช้มีดฟันเหยื่อปล้นทรัพย์

ตำรวจสืบ 1 ตามจับกุมแก๊ง “อิสมอย” ก่อเหตุปล้นทรัพย์ด้วยพฤติกรรมน่ากลัว พบเหยื่อในที่เปลี่ยว ตรงเข้าใช้มีดฟัน แล้วชิงทรัพย์หลบหนี คืนเดียวตระเวนก่อเหตุหลายท้องที่ ยังอ้างไม่ได้ตั้งใจปล้นทรัพย์

วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 และ พ.ต.ท.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผกก. แถลงการจับกุมนายธีรภัทร หรือไวไว แร่อร่าม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/1 หมู่ 5 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. นายธนาดล หรือตั้ม กาญจนกุล อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127/79 ซอยสายไหม 64 แขวง-เขตสายไหม กทม. และนายคมสัน หรือหมี รักพลเมือง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ถนนแพร่งนรา แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กทม. พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นอีลิแกนซ์ สีขาวดำ ทะเบียน ษขจ391 กทม. ที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 คัน, อาวุธมีด 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

พล.ต.ต.พชรเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 เม.ย. เวลา 00.30 น. มีคนร้าย 5 คน ใช้รถจักรยานยนต์
2 คัน ร่วมกันใช้อาวุธมีดปล้นทรัพย์ โทรศัพท์ยี่ห้อแบล็กเบอร์รีของนายณัฐดนัย เอกศิริ ที่สะพานลอยหน้าโรงพยาบาลพญาไท 2 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ก่อนหลบหนีไป นอกจากนี้ในคืนเดียวกัน ยังมีผู้เสียหายอีกรายคือนายทัศนัย วรศักดิ์ศิริกุล ซึ่งนั่งอยู่ที่ป้ายรถประจำทาง หน้าตึกชินวัตร 1 ถนนพหลโยธิน ถูกคนร้ายใช้มีดไล่ฟันจนบาดเจ็บสาหัส และชิงเอากระเป๋าสตางค์ภายในมีเงินสด 600 บาท ก่อนจะหลบหนีไป ต่อมาชุดจับกุมตรวจสอบพบว่าคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกัน พักอยู่ย่านศาลเจ้าพ่อเสือ จึงติดตามตัวมาทำการสอบสวนได้ 3 คน จนทราบว่า แก๊งนี้มีชื่อว่า “อิสมอย แก๊งสไตล์” ซึ่งเป็นคำพูดที่ใช้กันในแก๊งแต่ไม่มีความหมายใด แก๊งนี้มีด้วยกัน 5 คน โดยมี นายคมกฤษ หรือแบงค์ และนายวุฒิ (ยังไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง)
และที่ยังหลบหนีอีก 2 คน

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ที่ก่อเหตุไปนั้นไม่ได้ตั้งใจจะปล้นทรัพย์ แต่ทำไปเพราะเพื่อนมีเรื่องทะเลาะวิวาท ส่วนของกลางที่ได้ นายคมกฤษ หรือแบงค์ และนายวุฒิ เป็นผู้เอาไป โดยนายธีรภัทร มีอาชีพรับจ้างขายกีตาร์ย่านศาลเจ้าพ่อเสือ นายธนาดล ช่วยมารดาขายเสื้อผ้า และนายคมสัน อาชีพรับจ้างยกของ โดยได้ตระเวนปล้นทรัพย์มาแล้วหลายพื้นที่ จะเลือกเหยื่อที่อยู่ลำพังและเป็นสถานที่มืด เช่น ป้ายรถประจำทางหรือสะพานลอย โดยทำมาแล้วหลายครั้ง อาทิ ย่านปทุมวัน สะพานควาย อนุสาวรีย์ชัยฯ ศาลเจ้าพ่อเสือ และสนามหลวง ซึ่งในคืนที่ก่อเหตุดังกล่าว ทำมา 5 ครั้ง ท้องที่ สน.ปทุมวัน 3 ครั้ง สน.บางซื่อ 1 ครั้ง และ สน.พญาไท 1 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะฯ และร่วมกันข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั่นเอง หรือของผู้อื่น, ร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นำส่ง สน.พญาไท ดำเนินคดี พร้อมทำการขยายผลต่อไป