จับสวะสังคมตั้ง “แก๊งจอมทองมีดหัวตัด” ปล้นเหยื่อตระเวนก่อเหตุในหลายพื้นที่ ขี่ จยย.พกอาวุธพอเจอเหยื่อจะเข้าทำร้าย บ้างก็ถีบรถล้มแล้วใช้มีดชิงทรัพย์ แก๊งสวะสังคมยอมรับก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง เงินที่ได้เอาไปเที่ยวเตร่ ซื้อยาเสพ
วันนี้ (9 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. และพล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมหเจริญ รอง ผบช.น. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายวิโรจน์ วีระสิทธิ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/12 ซ.ศิลปเดช แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม., นายพรชัย เกตุปราโมทย์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/42 ซอยจอมทอง 12 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี อยู่แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง, จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน, จักรยา่นยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงิน ทะเบียน ยรพ 151 กทม.1 คัน หมวกนิรภัยสีดำ 1 ใบ และมีดปลายแหลม 1 เล่ม โดยจับกุมตัวได้ที่ปากซอยวุฒากาศ 39
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า แก๊งของผู้ต้องหามีประมาณ 15 คน ส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชนอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป ชื่อ “แก๊งจอมทองมีดหัวตัด” โดยทุกคนจะพกมีดหัวตัดเป็นอาวุธ ก่อเหตุในหลายพื้นที่ทั้งย่านธนบุรี เช่น ถนนจรัญสนิทวงศ์ เพชรเกษม เอกชัย พระราม 2 และย่านบางกรวย โดยจะขับขี่จักรยานยนต์ไปเรื่อยๆ เมื่อเจอเหยื่อก็จะเข้าไปทำร้ายร่างกาย บางครั้งก็ถีบจักรยานยนต์ให้ล้มลง หรือบางทีก็ใช้มีดจี้ โดยในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน นอกจากปล้นทรัพย์ผู้หญิงรายหนึ่งแล้วยังลากเข้าข้างทางเพื่อจะข่มขืน แต่โชคดีว่าผู้หญิงร้องและมีคนมาพบจึงรอดมาได้
พล.ต.ท.วินัยกล่าวอีกว่า สืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหายแจ้งมาว่า ขณะยืนอยู่ริมถนนเอกชัย ข้างสะพานลอยตรงข้ามร้านเอ็มหมูกระทะ แขวงและเขตบางบอน กทม. ได้มีคนร้าย 3 คนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 2 คัน โดยทำทีนำรถมาจอดใกล้กับผู้เสียหายที่ยืนอยู่ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอตรวจค้น พร้อมกับแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดู และทำท่าจะล้วงเอาอาวุธออกมาจากเอวและพูดว่า “ถ้าขัดขืนจะยิงให้ตาย” พร้อมกับล้วงเอาโทรศัพท์ของผู้เสียหายไป ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ออกตรวจเพื่อติดตามไปยังบริเวณป้ายรถโดยสารตามแยกบางบอน 3 พบกลุ่มผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทันขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามจับกุมตัวนายวิโรจน์ และนำตัวมาสืบสวนสอบสวนขยายผล
ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายคดี โดยจะตระเวนก่อเหตุไปเรื่อยๆ หลายพื้นที่ ส่วนใหญ่จะก่อเหตุย่านเพชรเกษม, ราษฎร์บูรณะ, บางกรวย จนถึง จ.นครปฐม พร้อมกับนำจักรยานยนต์ที่ได้จากการปล้นมาไปขายให้กับนายวิทยา เฟื่องฟุ้ง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ซ.ริมทางรถไฟ 3 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีน้ำตาลดำ ทะเบียน ขทด 823 นครปฐม จำนวน 1 คัน โดยรับซื้อจากนายดำ ในราคา 4,000 บาท และจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน ฬมษ 865 กทม.จำนวน 1 คัน โดยรับซื้อจากนายก้องในราคา 4,000 บาท จากนั้นจะมีการโอนเงินผ่านบัญชีผู้ต้องหา ซึ่งรถคันนี้ได้แจ้งความที่ สภ.บางกรวย เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2555
ทั้งนี้ แก๊งนี้ได้ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง เมื่อได้เงินก็จะเอาไปเที่ยวเตร่และไปซื้อยาเสพติดมาเสพ โดย นายวิทยาอ้างเพียงว่าแค่จำนำรถไว้เท่านั้น ไม่มีส่วนรู้เห็น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ต่อนายวิโรจน์ นายพรชัย และนายดำ ส่วนนายวิทยา แจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางบอน ดำเนินคดี พร้อมขยายผลต่อไป
