“ชูวิทย์” นำทีมคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ตำรวจ สน.พญาไท พร้อมรับปากจะเสนอของบประมาณปรับปรุงแฟลตที่พักอาศัยให้ดีขึ้น เผยได้ร่อนหนังสือถึงทุก สน.ที่มีบ่อนให้เร่งแก้ไข ขู่หากเพิกเฉยจะลงลุยเอง ลั่นจะไปเยี่ยม สน.ทองหล่อเป็นโรงพักต่อไป โวมีคลิปแฉสถานบันเทิงเปิดเกินเวลากำหนด
วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจ (ชุดที่ 1) พร้อมคณะอนุกรรมาธิการฯ เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจพญาไท โดยมี พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท ให้การต้อนรับ จากนั้นคณะอนุกรรมาธิการได้ไปดูแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ที่อยู่ในสภาพเก่า และโรงเก็บจักรยานยนต์สายตรวจ และที่เก็บจักรยานยนต์ของกลางที่บริเวณด้านหลังสถานี จากนั้นได้เข้าไปที่ห้องออกกำลังกายซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างสนามบาส โดยนายชูวิทย์ได้ต่อยกระสอบทรายโชว์ผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเข้าไปดูห้องตัดผมสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ตำรวจตัดฟรี จากนั้นได้ขึ้นไปตรวจดูห้องรับแจ้งความที่ประชาชนเข้ามาใช้บริการ ห้องพนักงานสอบสวน พร้อมเข้าร่วมประชุมกับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ห้องประชุม 2 ของสน.พญาไท
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายชูวิทย์เปิดเผยว่า ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจมาตรวจเยี่ยม สน.พญาไทวันนี้ เพื่อมารับฟังปัญหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานว่าขาดแคลนสิ่งใดบ้าง และเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าพนักงานสอบสวนแต่ละนายต้องรับคดีเดือนละ 30-40 คดี โดยไม่มีผู้ช่วยและต้องจัดหาอุปกรณ์เอง ซึ่งแฟลตที่พักอาศัยก็เก่าอยู่กันหลาย บก.มาหลายรุ่นไม่มีการปรับปรุง ที่จอดรถทั้งของตำรวจและรถของกลางก็ค่อนข้างแออัด ซึ่งตนจะเสนองบประมาณปรับปรุงเพื่อความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ให้ดีขึ้น และในส่วนสันทนาการห้องออกกำลังกายเป็นโครงการที่ดีที่ให้เจ้าหน้าที่ได้ผ่อนคลายด้วยการออกกำลังกาย
“เรื่องบ่อนการพนันผมได้ส่งหนังสือไปทุกสถานีตำรวจที่มีบ่อนการพนันให้ผู้ที่รับผิดชอบไปแก้ไข หากทำไม่ได้ผมจะลงไปดูเอง ส่วนบ่อนการพนันย่านถนนเพชรบุรีท้องที่ สน.พญาไท แต่ก่อนผมทราบว่ามี แต่ตอนนี้ผมไม่ทราบ ท่านผู้กำกับคงดูแลปัญหานี้ได้ดี และต่อไปจะไปที่สน.ทองหล่อ รับรองว่ามีปัญหาแน่มีคนร้องเรียนมาหาผมและมาพบด้วยตัวเอง ซึ่งท่านที่ร้องเรียนเป็นถึงรองศาสตราจารย์ บอกว่าสถานบริการเปิดถึงตี 4 ตี 5 ไม่ได้หลับได้นอน รถวิ่งกันทั้งคืน ผมมีคลิปยืนยันและจะไปเปิดให้สื่อดูที่ สน.ทองหล่อ เพื่อให้ท้องที่ที่รับผิดชอบไป แก้ไขให้ปิดตามเวลาตี 2 ที่กฎหมายกำหนด” นายชูวิทย์กล่าว
วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจ (ชุดที่ 1) พร้อมคณะอนุกรรมาธิการฯ เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจพญาไท โดยมี พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท ให้การต้อนรับ จากนั้นคณะอนุกรรมาธิการได้ไปดูแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ที่อยู่ในสภาพเก่า และโรงเก็บจักรยานยนต์สายตรวจ และที่เก็บจักรยานยนต์ของกลางที่บริเวณด้านหลังสถานี จากนั้นได้เข้าไปที่ห้องออกกำลังกายซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างสนามบาส โดยนายชูวิทย์ได้ต่อยกระสอบทรายโชว์ผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเข้าไปดูห้องตัดผมสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ตำรวจตัดฟรี จากนั้นได้ขึ้นไปตรวจดูห้องรับแจ้งความที่ประชาชนเข้ามาใช้บริการ ห้องพนักงานสอบสวน พร้อมเข้าร่วมประชุมกับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ห้องประชุม 2 ของสน.พญาไท
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายชูวิทย์เปิดเผยว่า ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจมาตรวจเยี่ยม สน.พญาไทวันนี้ เพื่อมารับฟังปัญหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานว่าขาดแคลนสิ่งใดบ้าง และเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าพนักงานสอบสวนแต่ละนายต้องรับคดีเดือนละ 30-40 คดี โดยไม่มีผู้ช่วยและต้องจัดหาอุปกรณ์เอง ซึ่งแฟลตที่พักอาศัยก็เก่าอยู่กันหลาย บก.มาหลายรุ่นไม่มีการปรับปรุง ที่จอดรถทั้งของตำรวจและรถของกลางก็ค่อนข้างแออัด ซึ่งตนจะเสนองบประมาณปรับปรุงเพื่อความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ให้ดีขึ้น และในส่วนสันทนาการห้องออกกำลังกายเป็นโครงการที่ดีที่ให้เจ้าหน้าที่ได้ผ่อนคลายด้วยการออกกำลังกาย
“เรื่องบ่อนการพนันผมได้ส่งหนังสือไปทุกสถานีตำรวจที่มีบ่อนการพนันให้ผู้ที่รับผิดชอบไปแก้ไข หากทำไม่ได้ผมจะลงไปดูเอง ส่วนบ่อนการพนันย่านถนนเพชรบุรีท้องที่ สน.พญาไท แต่ก่อนผมทราบว่ามี แต่ตอนนี้ผมไม่ทราบ ท่านผู้กำกับคงดูแลปัญหานี้ได้ดี และต่อไปจะไปที่สน.ทองหล่อ รับรองว่ามีปัญหาแน่มีคนร้องเรียนมาหาผมและมาพบด้วยตัวเอง ซึ่งท่านที่ร้องเรียนเป็นถึงรองศาสตราจารย์ บอกว่าสถานบริการเปิดถึงตี 4 ตี 5 ไม่ได้หลับได้นอน รถวิ่งกันทั้งคืน ผมมีคลิปยืนยันและจะไปเปิดให้สื่อดูที่ สน.ทองหล่อ เพื่อให้ท้องที่ที่รับผิดชอบไป แก้ไขให้ปิดตามเวลาตี 2 ที่กฎหมายกำหนด” นายชูวิทย์กล่าว
