xs
xsm
sm
md
lg

ตรวจหลักฐานไม่ทัน! เลื่อนนัดพร้อมคู่ความคดีทุจริตรถ-เรือดับเพลิงไป 8 มิ.ย.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพประกอบข่าว
ศาลฎีกานักการเมืองฯ เลื่อนนัดพร้อมคดีทุจริตรถเรือดับเพลิง กทม. เหตุทนายโจทก์-จำเลยตรวจสอบเอกสารพยานหลักฐานไม่ทัน นัดอีกรอบ 8 มิ.ย.นี้ พร้อมสั่งจำหน่ายคดีในส่วนบริษัทสไตเออร์ชั่วคราว เพื่อไม่ให้คดีล่าช้า

วันนี้ (1 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายธานิศ เกศวพิทักษ์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพ
มหานคร พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน นัดพร้อมคู่ความคดีหมายเลขดำ อม.5/2554 ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ฟ้องนายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย, นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย, นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์, พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร, บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด (STEYR- DAIMLER-PUCH Spezial fahrzeug AG&CO KG) และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542 จากกรณีการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ตามโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,687,489,000 บาท

ภายหลังนายสิทธิโชค ศรีเจริญ ทนายความ ป.ป.ช. กล่าวว่า ในวันนี้ได้ร่วมกับทนายความจำเลยที่ 1-4 และ 6 ทำการตรวจสอบพยานเอกสารหลักฐาน บัญชีรายชื่อพยานและประเด็นที่จะต้องนำสืบ แต่เนื่องจากเอกสารพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายมีจำนวนมากกว่า 15,000 รายการ ทั้งสองฝ่ายจึงไม่สามารถตรวจสอบและรับรองความถูกต้องของเอกสารพยานหลักฐาน เพื่ออ้างส่งศาลได้เสร็จสิ้น ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนนัดพร้อมคู่ความไปเป็นวันที่ 8 มิ.ย.นี้ เวลา 09.30 น. พร้อมกำชับให้ทั้งสองฝ่ายกำหนดประเด็นนำสืบ รายชื่อพยานและรับรองเอกสารให้เสร็จสิ้น เพื่อจะได้กำหนดวันนัดไต่สวนพยานได้ในครั้งต่อไป

ทนายความ ป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับ บริษัทสไตเออร์ฯ จำเลยที่ 5 ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ประเทศออสเตรียนั้น ขณะนี้ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการส่งหมายผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว แต่ยังติดตรงที่ผู้ที่เซ็นชื่อรับหมายเรียก กับผู้ที่มีชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัทสไตเออร์ เป็นคนละชื่อกัน ศาลจึงมีคำสั่งให้ ป.ป.ช.ไปดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องว่าบุคคลใดที่เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเป็นกรรมการผู้มีอำนาจทั้งสองคนแล้วจึงมาแถลงความชัดเจนให้ศาลทราบ ดังนั้น ศาลจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีในส่วนของบริษัทสไตเออร์จำเลยที่ 5 ไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อไม่ให้คดีล่าช้า
กำลังโหลดความคิดเห็น