xs
xsm
sm
md
lg

เครียดถูกบอกเลิก จี้จับแฟนสาวเป็นตัวประกันบนรถเมล์!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


เกิดเหตุชายหนุ่มใช้อาวุธมีดจี้จับแฟนสาวเป็นตัวประกันบนรถเมล์กลางกรุง ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ สาเหตุมาจากถูกสาวเจ้าบอกเลิก เลยเครียดจัด โชคดีตำรวจเกลี้ยกล่อมจนสำเร็จ ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น


วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล ผกก.สน.ดินแดง ได้รับแจ้งเหตุ ชายอายุประมาณ 25-30 ปี ใช้อาวุธปืนและมีด จี้คอหญิงเป็นตัวประกันบนรถเมล์สาย 13 เป็นรถโดยสารบริการฟรี วิ่งระหว่างท่าเรือคลองเตย-ห้วยขวาง ระหว่างถนนมิตรไมตรี หน้า สน.ดินแดง โดยคนร้ายที่นั่งอยู่บริเวณเบาะหลังได้ใช้มีดและปืนออกมาจี้หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นตัวประกัน ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถต่างตื่นตกใจลงจากรถกันอลหม่านจึ งไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผบช.น. พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1

เบื้องต้นตำรวจ สน.ดินแดงที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้พยายามเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อม แต่คนร้ายยังไม่ยอมปล่อยตัวประกัน โดยร้องบอกว่า “วันนี้พร้อมที่จะมาตาย” ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้พยายามติดต่อญาติของคนร้ายเพื่อมาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมคนร้าย รวมทั้ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบ.ช.น.ที่เดินทางมาช่วยเจรจาแต่คนร้ายยังไม่ยอมปล่อยตัวประกัน ทางเจ้าหน้าที่จึงติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอรินทราชมาเข้าช่วยเจรรจา

นายประสิทธิ์ ละไม้สี คนขับรถประจำทางคันดังกล่าวให้การว่า ระหว่างที่ขับรถมาตามเส้นทางได้มีผู้โดยสารเดินมาบอกว่ามีผู้ชายใช้มีดและปืนจี้หญิงสาวเป็นตัวประกันอยู่ที่เบาะหลังรถ จึงขับรถพยายามมองหาตำรวจแต่ไม่เห็น จึงขับรถเข้ามาที่ สน.ดินแเดง ก่อนจะเปิดประตูให้ผู้โดยสารคนอื่นลงจากรถ ส่วนชายคนดังกล่าวยังคงจี้หญิงสาวอยู่ที่เบาะด้านหลังต่อไป

ต่อมา พล.ต.ต.วิชัยได้เจรจาเกลี้ยกล่อมจนคนร้ายเริ่มมีท่าทีอ่อนข้อ และได้จูงมือหญิงสาวที่จับเป็นตัวประกัน ซึ่งทราบภายหลังเป็นแฟนของคนร้ายเองลงจากรถมานั่งพูดคุยอยู่ข้างล่างพักใหญ่จึงยอมปล่อยตัวหญิงสาว

จากนั้นตำรวจพาทั้งคู่ซึ่งหญิงสาวยังคงเกิดอาการอ่อนเพลียเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดไปสงบสติอารมณ์ยัง สน.ดินแดง สอบสวนเบื้องต้นทราบคนร้ายชื่อ นายโทน ศรีพุ่ม มีอาชีพขายพะโล้อยู่ในจังหวัดนครปฐม ได้มีปากเสียงกับแฟนสาวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเนื่องจากถูกแฟนสาวบอกเลิก เมื่อขึ้นรถเมล์คันดังกล่าวมาจึงเกิดอาการเครียดจัดใช้อาวุธมีปลายแหลมพร้อมทั้งอาวุธปืนปลอมที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อจี้จับตัวแฟนสาวเป็นตัวประกัน

พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่าภายหลังการสอบสวนว่า จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายคือนายโทน ศรีชุ่ม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 11 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อาชีพพ่อค้าขายเป็ดพะโล้ จ.นครปฐม ได้ก่อเหตุจี้ตัว น.ส.พรทิพย์ ดวงตายา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่9 ต.บ้านดล อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร พนักงานบริษัทอุตสาหกรรมนมไทย ย่านลุมพินี โดยผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนปลอมที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อและใช้อาวุธมีดจี้หญิงสาวเป็นตัวประกันบนรถเมล์สาย13 ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าฝ่ายหญิงและฝ่ายชายคบหากันมานานกัน 1 ปี แต่ฝ่ายหญิงทราบว่าฝ่ายชายนั้นมีครอบครัวแล้วจึงบอกเลิก แต่ฝ่ายชายไม่ยอมจึงเกิดความเครียดและก่อเหตุดังกล่าว

ด้านนายประสิทธิ์ ละม้ายศรี พนักขับรถคันดังกล่าว เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นมากับบนรถกับหญิงสาว ตรงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนดรุณวิทยา ซึ่งตอนแรกคาดว่าน่าจะเป็นแฟนกัน ขณะกำลังขับรถมาถึงบริเวณโค้งโรงเรียนพร้อมพันธ์อุปถัม ต่อมาได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง จากนั้นผู้โดยสารวิ่งมาบอกว่ามีผู้หญิงโดนจี้ ตนจึงได้ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุโดยเปิดประตูรถให้ผู้โดยสารลง และรีบขับรถไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ดินแดงเพื่อขอความช่วยเหลือทันที

จากการสอบสวนนายโทน ให้การรับสารภาพว่า ตนทำอาชีพขายเป็ดพะโล้ อยู่ที่จังหวัดนครปฐม โดยคบหาเป็นแฟนกับน.ส.พรทิพย์ มาประมาณ 1 ปี ซึ่งจากที่แฟนสาวเคยไปหาตนที่นครปฐมทุกอาทิตย์ แต่ช่วงหลังไม่เดินทางไปหาและไม่รับโทรศัพท์ตน รวมถึงยังพบข้อความจากบุคคลอื่นนัดเจอกัน ทำให้เกิดอาการหึงหวง ส่วนในเรื่องที่ตนมีครอบครัวนั้น ตนกับภรรยาเก่าที่มีลูกด้วยกัน 1 คน และได้เลิกรากันไปนานแล้ว แต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาภรรยาเก่าได้เดินทางมาหาขณะที่กำลังคบกับแฟนสาวคนปัจจุบัน จึงได้ทำความตกลงกันไปแล้วและแฟนสาวก็รับได้ จึงแยกย้ายกันทำงานปกติ แต่ต่อมาแฟนสาวก็ยังตีตัวออกห่างเช่นเดิมจึงเกิดความโมโหและเหตุดังกล่าว

ขณะที่นางสาวปณิตา ดวงตายา อายุ 36 ปี พี่สาว น.ส.พรทิพย์ ผู้เสียหายกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยพยายามคุยกับฝ่ายชายแล้ว แต่กลับได้รับการข่มขู่ โดยอ้างว่ามีทั้งอาวุธปืนและระเบิด จนกระทั้งวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมาฝ่ายชายได้เดินทางจากจ.นครปฐมมาที่กรุงเทพฯและดักชิงตัวน้องสาวตนหายไป และไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั้งวันที่ 25 เม.ย. น้องสาวตนได้กลับมาจึงให้น้องสาวเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน.ลุมพินี และมาวันนี้ล่าสุดผู้ต้องหาก็ได้ลงมือก่อเหตุอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวพรทิพย์ ผู้เสียหายยังอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจและมีสีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด และไม่ยอมตอบข้อซักถามใด ๆ กับผู้สื่อข่าว

ด้าน พ.ต.อ.ภานพ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไป ซึ่งทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียหาย2คนนั้นเป็นแฟนกัน แต่ตกลงกันไม่ได้ในบางเรื่องจึงเกิดความโมโห ซึ่งต่อมาผู้ก่อเหตุก็ได้ขอโทษแฟนสาวและได้พูดคุยกันดีแล้ว อย่างไรก็ตามส่วนทางด้านคดีความก็ต้องดำเนินการไป ซึ่งเบื้องต้นแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น