xs
xsm
sm
md
lg

จับหนุ่มใหญ่อิตาลีเปิดเว็บหื่นใช้ไทยฐานผลิตหนังลามก!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

จนท.คุมตัวนายมาร์โค ลัซซาลินิ(Mr.marco lazzarini ) อายุ 58 ปี สัญชาติ อิตาลี มาแถลงผลการจับกุม
สตม.รวบหนุ่มใหญ่ชาวอิตาลี เปิดเว็บไซต์ลามกอนาจาร ให้บุคคลทั่วไปเข้าชม สมัครเป็นสมาชิก และดาวน์โหลด โดยเสียค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต พร้อมยึดของกลางอุปกรณ์การถ่ายภาพยนตร์ลามก-คอมพิวเตอร์ และเครื่องมือสื่อลามก พบใช้ไทยและฟิลิปปินส์ เป็นฐานหลักในการผลิตภาพยนตร์ลามก เบื้องต้น ตร.แจ้งข้อหา ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ พร้อมดำเนินการถอนวีซ่าและขยายผลต่อไป

วันนี้ (26 เม.ย.)เวลา 13.00 น.ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สตม. พล.ต.ต.วรินทร์ บุณยเกียรติ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ผบก.สส.สตม.พร้อมด้วย หน่วย กก.1บก.สส.สตม.แถลงการจับกุม นายมาร์โค ลัซซาลินิ (Mr.marco lazzarini) อายุ 58 ปี สัญชาติอิตาลี พร้อมของกลางอุปกรณ์การถ่ายทำภาพยนตร์ลามก เครื่องมือประกอบสื่อลามก และคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 1194 ซ.สาธุประดิษฐ์ 20 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม.

พล.ต.ต.วรินทร์ เปิดเผยว่า สั่งการให้ พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ ผกก.1 สส.สตม.จัดชุดปฏิบัติการ ดำเนินการสืบสวนกรณีชาวต่างชาติเปิดเว็บไซต์ลามกอนาจาร ชื่อ เพอร์เวอร์เอ็กซ์ดอทคอม (http://perverx.com) ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมเว็บได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีการเปิดรับสมาชิก แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายผ่านทางบัตรเครดิตในการรับชม และดาวน์โหลด มี นายมาร์โค ลัซซาลินิ เป็นผู้จดทะเบียนเว็บไซต์ โดยใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นสถานที่ตัดต่อภาพลามกและทำเว็บไซต์ จึงได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขอเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจค้นพบเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเครื่องมือประกอบการถ่ายทำภาพยนตร์ลามก และอุปกรณ์ในการเผยแพร่สื่อลามก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการยึดไว้ตรวจสอบ

พล.ต.ต.วรินทร์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายมาร์โค พบว่า เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมาแล้ว 4 ครั้ง ในฐานะนักท่องเที่ยว มีภรรยาเป็นชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งใช้สถานที่ในประเทศไทย-ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นฐานหลักในการผลิตภาพยนตร์ลามก โดย นายมาร์โค อ้างว่า ตนเองไม่ได้ผลิตภาพยนตร์ลามกในประเทศไทย แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากเป็นคนต่างด้าวที่มีพฤติกรรมขัดต่อศีลธรรมอันดีงามของประเทศไทย เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยมีโทษจำคุกเกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมดำเนินการเพิกถอนวีซ่าของผู้ต้องหา และจะสืบขยายผลหาเครือข่ายต่อไป
ของกลางที่ยึดได้

กำลังโหลดความคิดเห็น