ศาลนัดสืบพยานโจทก์คดี “สมยศ” หมิ่นเบื้องสูง ขณะที่ทนายเสื้อแดงยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาส่งเรื่องให้ศาล รธน.วินิจฉัยกฎหมาย ม.112 ขัดต่อ รธน.ปี 50 หรือไม่ สอดคล้องกับประชาธิปไตยตามหลักสากลหรือไม่ พร้อมเห็นว่าไม่ควรจัดความผิดฐานหมิ่น ม.112 บัญญัติไว้ในหมวดความมั่นคงแห่งรัฐ ขณะที่ศาลรับคำร้องไว้พิจารณา และให้สืบพยานตามเดิม โดยยังไม่มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์คดีหมายเลขดำที่ อ.2962/2554 ที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาเพื่อประชาธิปไตย และอดีตบรรณาธิการหนังสือวอยซ์ ออฟ ทักษิณ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีเมื่อวันที่ 1-15 มี.ค.53 นิตยสาร VOICE OF TUKSIN : เสียงทักษิณ ปีที่ 1 ฉบับที่ 15 ปักษ์หลัง กุมภาพันธ์ 2553 ได้ลงบทความ คมความคิดของผู้ใช้นามปากกาว่า “จิตร พลจันทร์” เรื่องแผนนองเลือด กับยิงข้ามรุ่น หน้าที่ 45-47 โดยบทความมีเนื้อหาแสดงความเกลียดชัง และมุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยก่อนสืบพยานวันนี้ ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องให้ศาลส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ขัดกับรัฐธรรมนูญ ฯ ปี 2550 หรือไม่ และกฎหมายมาตรา 112 สอดคล้องกับประชาธิปไตยตามหลักสากลหรือไม่ และเห็นว่าไม่ควรจัดความผิดฐานหมิ่นประมาท ในมาตรา 112 มาบัญญัติไว้ในหมวดความมั่นคงแห่งรัฐ เพราะความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงนั้นควรเป็นเรื่องที่กระทบต่อการดำรงอยู่ของประเทศเท่านั้น อีกทั้งมาตรา 112 กำหนดโทษไว้ 3-5 ปี ทำให้ศาลกลับไม่สามารถใช้ดุลพินิจในการลงโทษขั้นต่ำน้อยกว่า 3 ปีได้
ท้ายคำร้องระบุอีกว่า ขอให้ศาลอาญาจำหน่ายคดีนี้ไว้ชั่วคราวก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด เนื่องจากเห็นว่าการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมผูกพันทุกองค์กรรวมทั้งศาลที่พิจารณาคดีนี้ด้วย
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าให้รับคำร้องไว้พิจารณา โดยศาลจะมีคำสั่งเรื่องนี้พร้อมกับคำพิพากษาต่อไป และให้ดำเนินการสืบพยานตามเดิม โดยยังไม่มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว
