“กี้ร์ อริสมันต์” ยื่นคำร้องขอรวมการพิจารณาคดีก่อการร้ายกับ 23 นปช. ศาลชี้มูลเหตุกรณีเดียวกัน หลักฐานส่วนใหญ่เป็นชุดเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตให้รวมเป็นคดีเดียวกันได้ พร้อมให้เรียก “กี้ร์” เป็นจำเลยที่ 24 ในคดีก่อการร้าย และให้เลื่อนสืบพยานโจทก์นัดแรกไป 9 ส.ค.นี้
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้นัดพร้อมคู่ความคดีดำ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายวีระ หรือวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับพวกรวม 23 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง (กี้ร์) จำเลยคนสำคัญในคดีร่วมกันก่อการร้ายหมายเลขดำ อ.4958/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง ซึ่งได้เดินทางมาพร้อมทนาย พร้อมยื่นคำร้องขอรวมการพิจารณาคดีทั้งสองคดีเป็นคดีเดียวกัน
นอกจากนี้ทนายจำเลยแถลงว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลยที่ 2 นายก่อแก้ว พิกุลทอง จำเลยที่ 5 นพ.เหวง โตจิราการ จำเลยที่ 7 และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท จำเลยที่ 10 เป็น ส.ส. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสมัยประชุมสภา เดิมจะสิ้นกำหนดสมัยประชุมวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากรัฐสภาต้องประชุมปรึกษาหารือกันอีก จึงมีการขยายเวลาประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ พ.ศ. 2555 ออกไปอีกจนกว่าจะมีพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุม อีกทั้งขณะนี้พนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องขอไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ไม่สงบเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ซึ่งเป็นมูลเหตุสำคัญที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดี โดยทนายของจำเลยที่ 4 ได้เป็นทนายความคดีที่มีการยื่นคำร้องขอไต่สวนชันสูตรพลิกศพ หมายเลขดำ ที่ ช.4/2553 และ ช.7/2553 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งนัดไต่สวนวันที่ 21 พ.ค.นี้ และคดีหมายเลขดำ ที่ ช.55/2553 ของศาลอาญา ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพ วันที่ 28 พ.ค.นี้ โดยฝ่ายจำเลยเห็นว่าพยานหลักฐานในคดี รวมทั้งผลของคดี จะมีผลต่อแนวทางการต่อสู้คดีของจำเลย จึงขอยกเลิกการสืบพยานโจทก์ในเดือน มิ.ย.และ ก.ค. และให้เลื่อนสืบพยานโจทก์ในเดือน ส.ค. เพื่อรอผลคดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพ คดีหนึ่งคดีใดก่อน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีดำ อ.4958/2554 กับคดีดำ อ.2542/2553 มีมูลกรณีเดียวกัน พยานหลักฐานส่วนใหญ่เป็นชุดเดียวกัน เมื่อรวมพิจารณาแล้วจะเป็นการสะดวก จึงอนุญาตให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน โดยให้เรียกนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง เป็นจำเลยที่ 24 ในคดีก่อการร้าย และเมื่อฝ่ายจำเลยทั้งหมดยืนยันว่าพยานหลักฐานที่พนักงานอัยการใช้ในการไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ถือเป็นประโยชน์และเป็นหลักฐานสำคัญที่จำเลยจะใช้ประกอบการถามค้านโจทก์และเป็นแนวทางต่อสู้คดี อีกทั้งยังไม่แน่ว่าเดือน มิ.ย.นี้ จะมีการปิดสมัยประชุมสภาหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นเหตุขัดข้องต่อการสืบพยาน เห็นควรอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานโจทก์คดีนี้นัดแรกวันที่ 9 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป และนัดสืบพยานโจทก์ทุกวันพฤหัสบดีและศุกร์ติดต่อกันระหว่างที่ปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งจำเลย และแนวร่วม นปช. พร้อมด้วยทนายจำเลย ประมาณ 30 คน เดินทางมาศาล เพื่อร่วมฟังพิจารณาคดี
ด้าน นายคารม พลพรกลาง ทนายความ นปช. เปิดเผยว่า วันนี้จำเลยคดีก่อการร้ายหลายราย เช่น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ติดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไม่สามารถมาร่วมฟังการพิจารณาคดีได้ นอกจากนี้ทีมทนายความเห็นว่า ควรจะขอให้ศาลเลื่อนการสืบพยานในคดีนี้ออกไปก่อน โดยให้รอผลการไต่สวนคดีชันสูตรพลิกศพ นปช.ที่เสียชีวิต 1-2 คดี เนื่องจากยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเสียชีวิตจากฝีมือของฝ่ายใด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการซักค้านฝ่ายโจทก์ อีกทั้งเป็นประเด็นสำคัญในการต่อสู้คดี