ศาลสั่งจำคุก 2 ปี สาวนั่งดริงก์คาราโอเกะย่านสุทธิสาร รูดทรัพย์แขกที่หิ้วไปนอน ทั้งเงินสดและสร้อยคอทองคำ เกือบ 3 หมื่นบาท แต่รับสารภาพลดโทษเหลือ 1 ปี ชี้เป็นภัยสังคม สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ไม่ควรรอลงอาญา
วันนี้ (11 เม.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีลักทรัพย์ อ.686/55 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.สุดา หรือเจี๊ยบ หอมมาลา อายุ 24 ปี อาชีพรับจ้าง ชาว อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เป็นจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 12 มี.ค.55 ระบุความผิดสรุปว่า
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.55 เวลาประมาณ 23.30 น. นายเก๋ แซ่ภู ผู้เสียหาย ได้มาเที่ยวหาความสำราญที่ร้านคาระโอเกะ แห่งหนึ่งย่านถนนสุทธิสาร และได้พาจำเลย ซึ่งมีอาชีพขายเครื่องดื่ม (นั่งดริงก์) ไปร่วมหลับนอนที่โรงแรม 45 ย่านซอยพหลโยธิน 11 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กระทั่งเวลา 05.00 น.ของวันที่ 27 ม.ค.55 ผู้เสียหายตื่นขึ้นมา ไม่พบจำเลย และทรัพย์สินมีค่าหลายรายการสูญหายไป เช่น เงินสด 12,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง พร้อมพระเลี่ยมทอง มูลค่า 15,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องราคา 2,000 บาท รวม 29,000 บาท จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ติดตามจับกุมจำเลยดำเนินคดี จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) พิพากษา จำคุก 2 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อพิเคราะห์รายการสืบเสาะ และพินิจ สภาพครอบครัว การศึกษา และอื่นๆ ของจำเลยแล้วเห็นว่าจำเลยไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นกิจจะลักษณะ อีกทั้งพฤติการณ์การกระทำผิดเป็นภัยต่อสังคม สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น จึงไม่สมควรรอการลงโทษ และให้จำเลยชดใช้เงิน หรือค่าเสียหายจำนวน 29,000 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย
