คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์แบงก์กสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ใช้เวลาก่อเหตุเพียง 20 วินาที กวาดเงินสดไปกว่า 700,000 บาท ขณะที่ ผบช.น.ชี้ยังไม่พบพิรุธคนในเกี่ยวข้อง สั่งตรวจสอบภาพวงจรปิดเร่งสอบพยานเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว
วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.45 น. พ.ต.ท.ทองอยู่ เงินสุข พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ฉลองกรุง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ภายในธนาคารกสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ตั้งอยู่เลขที่ 40 ในอาคารสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ห้องเลขที่ 101 A-103 A ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.3 พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอาง ผกก.สน.ฉลองกรุง พ.ต.ท.ประเสริฐ รัตนรุ่งโรจน์ สว.สส.สน.ฉลองกรุง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ไปยังที่เกิดเหตุซึ่งภายในธนาคาร พบว่าตู้รับบัตรคิวล้มอยู่ ที่ฝ้าเพดานพบรอยกระสุนปืน 1 รู ส่วนพนักงานธนาคารอยู่ในอาการตื่นตระหนก
จากการสอบสวนนายธนกฤต จำปาลี อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่ประจำหน้าเคาน์เตอร์ของธนาคาร กล่าวว่า ประจำอยู่เคาน์เตอร์ช่องที่ 2 ซึ่งขณะเกิดเหตุมีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงพักเที่ยง ระหว่างนั้นมีคนร้าย 1 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ ใส่ถุงมือสีขาว สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สูงประมาณ 170 ซม. เปิดประตูเข้ามา โดยมือขวาของคนร้ายถืออาวุธปืนสีเงินไม่ทราบขนาด มือซ้ายถือกระเป๋าสีดำ จากนั้นคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขึ้นเพดานทันที 1 นัด แล้วเดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์ พร้อมวางกระเป๋าบนเคาน์เตอร์และเอาปืนจ่อใส่ตนส่ายไปมา ก่อนจะกวาดเงินสดในตะกร้าซึ่งวางอยู่บนโต๊ะจำนวน 732,000 บาทใส่กระเป๋า แล้ววิ่งหลบหนีไปขึ้นจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยคนร้ายได้ขับย้อนศรไปตามถนนในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งใช้เวลาก่อเหตุเพียง 20 วินาทีเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารดังกล่าวเพิ่งเปิดทำการได้เพียง 2 ปี โดยไม่มี รปภ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ภายในธนาคาร โดยมีเพียง รปภ.ที่ดูแลอาคารประจำอยู่ด้านนอกเท่านั้น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุจึงไม่สามารถเข้าไประงับเหตุได้ทันที อีกทั้งธนาคารเพึ่งเปิดทำการวันแรกหลังจากหยุดยาว 4 วัน จึงได้เบิกเงินสดสำรองใส่ไว้ในตระกร้าเพื่อให้บริการลูกค้าจำนวนมากกว่า 1 ล้านบาท แต่คนร้ายสามารหยิบไปได้เพียง 732,000 บาทเท่านั้น
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาไว้ก่อนเป็นอย่างดี เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านสถานที่ โดยคนร้ายรู้ว่าเคาน์เตอร์และเงินสดอยู่ที่จุดใด แต่เบื้องต้นไม่พบพิรุธว่ามีคนภายในธนาคารเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งหาภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อติดตามมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.45 น. พ.ต.ท.ทองอยู่ เงินสุข พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ฉลองกรุง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ภายในธนาคารกสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ตั้งอยู่เลขที่ 40 ในอาคารสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ห้องเลขที่ 101 A-103 A ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.3 พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอาง ผกก.สน.ฉลองกรุง พ.ต.ท.ประเสริฐ รัตนรุ่งโรจน์ สว.สส.สน.ฉลองกรุง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ไปยังที่เกิดเหตุซึ่งภายในธนาคาร พบว่าตู้รับบัตรคิวล้มอยู่ ที่ฝ้าเพดานพบรอยกระสุนปืน 1 รู ส่วนพนักงานธนาคารอยู่ในอาการตื่นตระหนก
จากการสอบสวนนายธนกฤต จำปาลี อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่ประจำหน้าเคาน์เตอร์ของธนาคาร กล่าวว่า ประจำอยู่เคาน์เตอร์ช่องที่ 2 ซึ่งขณะเกิดเหตุมีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงพักเที่ยง ระหว่างนั้นมีคนร้าย 1 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ ใส่ถุงมือสีขาว สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สูงประมาณ 170 ซม. เปิดประตูเข้ามา โดยมือขวาของคนร้ายถืออาวุธปืนสีเงินไม่ทราบขนาด มือซ้ายถือกระเป๋าสีดำ จากนั้นคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขึ้นเพดานทันที 1 นัด แล้วเดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์ พร้อมวางกระเป๋าบนเคาน์เตอร์และเอาปืนจ่อใส่ตนส่ายไปมา ก่อนจะกวาดเงินสดในตะกร้าซึ่งวางอยู่บนโต๊ะจำนวน 732,000 บาทใส่กระเป๋า แล้ววิ่งหลบหนีไปขึ้นจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยคนร้ายได้ขับย้อนศรไปตามถนนในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งใช้เวลาก่อเหตุเพียง 20 วินาทีเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารดังกล่าวเพิ่งเปิดทำการได้เพียง 2 ปี โดยไม่มี รปภ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ภายในธนาคาร โดยมีเพียง รปภ.ที่ดูแลอาคารประจำอยู่ด้านนอกเท่านั้น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุจึงไม่สามารถเข้าไประงับเหตุได้ทันที อีกทั้งธนาคารเพึ่งเปิดทำการวันแรกหลังจากหยุดยาว 4 วัน จึงได้เบิกเงินสดสำรองใส่ไว้ในตระกร้าเพื่อให้บริการลูกค้าจำนวนมากกว่า 1 ล้านบาท แต่คนร้ายสามารหยิบไปได้เพียง 732,000 บาทเท่านั้น
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาไว้ก่อนเป็นอย่างดี เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านสถานที่ โดยคนร้ายรู้ว่าเคาน์เตอร์และเงินสดอยู่ที่จุดใด แต่เบื้องต้นไม่พบพิรุธว่ามีคนภายในธนาคารเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งหาภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อติดตามมาดำเนินคดีต่อไป