ตร.ร่วมถกบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ “ซูโดอีเฟดรีน” สารตั้งต้นที่นำไปผลิตยาเสพติดให้กับผู้ปฏิบัติงาน พบมีการจำหน่ายสารดังกล่าวมากว่าปกติในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จ.เพชรบุรี และ จ.ราชบุรี ขณะที่ สธ.ได้รวบรวมข้อมูลคดีจำหน่ายยาแก้หวัดที่มีสารซูโดอีเฟดรีนให้ดีเอสไอเกือบครบแล้ว
วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 เป็นประธานการบรรยายเกี่ยวกับการลักลอบนำสารซูโดอีเฟดรีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นไปผลิตเป็นยาเสพติด โดยมี พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับหัวหน้าหน่วย จาก บช.ภ.7 มารับฟังการบรรยายและศึกษาเกี่ยวกับขบวนการที่ลักลอบนำไปใช้
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า กรณีสารซูโดอีเฟดรีนที่กำลังเกิดปัญหาอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานไม่ได้เต็มที่หากไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ที่ชัดเจน จึงต้องมีการสร้างความเข้าใจ เพื่อจะนำความรู้ไปปฏิบัติได้จริงและถูกต้อง ซึ่งด้านการปราบปรามยาเสพติด ทาง บช.ภ.1 ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข มาตลอด โดยมีการจับกุมเครือข่ายพร้อมขยายผล ได้ทั้งตัวตั้งต้นสารเสพติดและเส้นทางการเงิน
พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับหัวหน้าหน่วยได้มาศึกษาเรื่องดังกล่าวกับทาง บช.ภ.1 ซึ่งมีความรู้เรื่องสารซูโดอีเฟดรีนเป็นพิเศษ เพื่อทำความเข้าใจ และนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง ในส่วนทางด้านการข่าวของ บช.ภ.7 พบว่า มีการจำหน่ายสารซูโดอีเฟดรีน เป็นจำนวนมากเกินปกติ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จ.เพชรบุรี และ จ.ราชบุรี พร้อมมีการลงพื้นที่ตรวจสอบตามโรงพยาบาลต่างๆแล้ว นอกจากนี้ยังพบความเคลื่อนไหวในพื้นที่ บช.ภ.7 ที่ได้รับจากการข่าวว่า อาจจะเชื่องโยงไปถึงการนำไปเป็นสารตั้งต้นด้วย
นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐในตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากคำสั่ง ของ รมว.สธ.ห้ามจำหน่ายสารซูโดอีเฟดรีนนั้น ต้องมาดูกันว่า ยาแก้หวัดที่ยังเหลืออยู่ จะมีวิธีบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งตอนนี้มีการยกระดับให้เป็นสารเสพติดประเภทที่ 2 แล้ว รวมทั้งจะนำไปใช้เพียงในโรงพยาบาลเท่านั้น สำหรับคดีที่มีการลักลอบจำหน่ายยาแก้หวัดที่มีสารรซูโดอีเฟดรีน ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปส่งมอบให้ ดีเอสไอ เกือบจะครบทั้งหมดแล้ว