ร้องกองปราบตามคดีลูกชายถูกรุมทำร้ายเสียชีวิตไม่คืบ!

ผู้ปกครองอดีตนักศึกษา ปวส.ร้องขอความเป็นธรรม กับตำรวจกองปราบ คดีลูกชายถูกคนร้ายนับ 10 รุมทำร้ายเสียชีวิตมา 3 เดือน แต่จับผู้ร่วมก่อเหตุได้ 2 คน แถมมี จนท.ในพื้นที่ให้การช่วยเหลือ ระบุ ที่ผ่านมาไปร้องหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่มีหน่วยใดจับตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดมาลงโทษได้ พร้อมวอนให้โอนสำนวนคดีมาให้กองปราบช่วยดำเนินการแทน

วันนี้ (20 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ กองปราบปราม นายชาตรี วิมุกตะลพ อายุ 54 ปี และนางมาลี วิมุกตะลพ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ บิดาและมารดาของ นายสนธิเดช วิมุกตะลพ หรือ โก้ อดีตนักศึกษา ปวส.ปี 2 วิทยาลัยการอาชีพพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายเสียชีวิต เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สุระพงษ์ ตรีสมพงษ์ พงส.(สบ1) กก.2 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมในคดีของบุตรชาย หลังจากตำรวจ สภ.พระประแดง สอบสวนมาร่วม 3 เดือนแล้ว แต่จับกุมผู้กระทำผิดมาได้เพียง 2 คน ทั้งที่ทราบมาว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดอีกหลายคนยังลอยนวลอยู่โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้การช่วยเหลือ

นายชาตรี กล่าวว่า เมื่อค่ำวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อนของบุตรชายโทรศัพท์มาบอกว่าบุตรชายประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ที่ถนนศรีเขื่อนขันธ์ เลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ต.ตลาด อ.พระประแดง โดยถูกส่งตัวไปรักษาที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลบางปะกอก 3 พระประแดง แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งตำรวจบันทึกว่า เป็นอุบัติเหตุ แต่ตนได้นำร่างบุตรชายส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ ผลชันสูตรเชื่อว่า ไม่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ ตนจึงสอบถามแฟนสาวของบุตรชายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทราบเรื่องว่า ก่อนเกิดเหตุบุตรชายมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มเพื่อนประมาณ 7-8 คน คาดว่า น่าจะเกิดเหตุบริเวณห้องอาหารกำปั่น อ.พระประแดง ไม่ไกลจากจุดที่รถล้ม โดยหนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์บุตรชาย และทราบเรื่องทั้งหมดเป็นอย่างดีว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง นอกจากนี้ ยังทราบมาว่า มีตำรวจสายตรวจ 2 นายรู้เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ระงับเหตุ มิหนำซ้ำยังพูดกับชาวบ้านด้วยว่า ถ้าใครมาถามให้บอกว่าเป็นอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์คว่ำ แต่ชาวบ้านแถวนั้นทราบดีว่าลูกชายถูกรุมทำร้าย และขับรถหนีมาจนถึงจุดที่รถล้มลง แต่เมื่อไปแจ้งให้นายตำรวจที่สถานีตำรวจทราบเขาก็บอกว่า ทราบตัวผู้กระทำผิดแล้วว่ามีใครบ้างแต่เพิ่งมาจับกุมได้ 2 คน เมื่อไม่นานมานี้ และไม่มีทีท่าว่าจะขยายผลจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดคนอื่นๆ ทั้งที่ผู้ต้องหาบางคนตำรวจยังพูดว่าไปก่อเหตุยิงชาวบ้านตายแต่เหตุใดจึงไม่รีบจับกุมตัวมาดำเนินคดี

นายชาตรี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ได้ไปร้องเรียนมาแล้วหลายครั้งทั้งผู้กำกับการสถานีตำรวจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด มูลนิธิปวีณาฯ แต่ผ่านมาร่วม 3 เดือน ก็ยังไม่สามารถนำตัวผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีได้ ทั้งๆ ที่ตำรวจบอกว่าทราบตัวผู้กระทำผิดหมดแล้ว อีกอย่างคือ เรื่องภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งตำรวจบอกว่าทางเทศบาลไม่ให้นั้นไม่เป็นความจริงเพราะผมยังสามารถไปขอดูได้เลย บุตรชายกำลังเรียนหนังสือชั้น ปวส.ปีสุดท้ายอีกไม่กี่เดือนก็จะสำเร็จการศึกษาและกลางปีนี้ก็จะบวชให้แต่กลับมาเกิดเหตุเสียก่อนจึงอยากมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับบุตรชาย และอยากให้โอนสำนวนคดีของบุตรชายมาให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยดำเนินการจับกุมคนร้ายที่ร่วมกระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป