ตร.นนทบุรีรวบแก๊งอาละวาดปล้นทรัพย์ ทำทีเป็นตำรวจขอตรวจค้น หรือแกล้ง จยย.ล้ม เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจอดรถก็จะใช้อาวุธปืนจี้เอาจักรยานยนต์ หากขัดขืนก็จะถูกทำร้ายร่างกาย
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สภ.บางใหญ่ นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผกก.สภ.บางใหญ่ พ.ต.ท.ปัญญา จีนเกิดทรัพย์ สว.สส.สภ.บางใหญ่ แถลงข่าวจับกุมแก๊งปล้นจักรยานยนต์ โดยสามารถจับกุมตัว นายธีระศักดิ์ หรือตั้ม สุดสงวน อายุ 24 ปี (หัวหน้าแก๊ง) อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.8 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี นายสุชิน มีสกุล อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 225/65 ม.2 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายนัด (นามสมมติ) อายุ 16 ปี พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ สภาพใหม่จำนวน 8 คัน จึงแจ้งข้อหาร่วมกันจี้ชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ โดยมีผู้เสียหายหลายรายมารอชี้ตัวแก๊งคนร้าย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนร้ายเป็นแก๊งวัยรุ่นก่อเหตุชิงจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.บางใหญ่ อ.บางบัวทอง และ อ.ปากเกร็ด โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้ผู้เสียหายหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น จากนั้นก็จะใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาจี้ให้ลงจากรถ หากขัดขืนก็จะทำร้ายร่างกายก่อนจะชิงรถหลบหนีไป
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนจึงวางแผนและส่งสายลับเข้าไปล่อซื้อจักรยานยนต์ต่อจากแก๊งคนร้ายในราคาคันละ 3,500 บาท เมื่อคนร้ายนำจักรยานยนต์ของกลางมาส่งตามที่นัดหมาย จึงแสดงตัวจับกุมพร้อมขยายผลไปจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งแก๊ง ที่ห้องพักเลขที่ 204 เกสต์เฮาส์วิวสบายเฮาส์ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมของกลางดังกล่าว จึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนต่อที่ สภ.บางใหญ่
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่าได้เริ่มตั้งแก๊งและออกตระเวนจี้ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์จักรยานยนต์ มาตั้งแต่พ้นโทษออกจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรีพร้อมกัน เมื่อเดือน ธันวาคม ปี 2554 โดยจะแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อผู้เสียหายจอดรถก็จะใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาจี้ชิงทรัพย์ หากขัดขืนก็จะทำร้ายร่างกาย หรือบางครั้งก็จะแกล้งทำทีเป็นรถจักรยานยนต์ล้ม เมื่อผู้เสียหายจอดรถลงมาช่วยก็จะใช้อาวุธปืนจี้ชิงจักรยานยนต์ไป แล้วจะนำไปขายต่อให้แก๊งวัยรุ่นซิ่งกวนเมือง ในราคาคันละ 3,500 บาท
นายณัฐพล ขันธโสภา ผู้เสียหายกล่าวว่า วันเกิดเหตุตนได้ขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ ที่เพิ่งออกมาได้เพียง 5 เดือน ไปรับน้องชายที่หน้าโรงเรียนพนิชยการบางบัวทองเวลา ประมาณ 21.00 น. คนร้ายซึ่งมาด้วยกัน 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์เข้ามาจอดประกบที่ข้างรถก่อนจะพูดกับตนว่าขอยืมไฟแช็ก ตนจึงตอบไปว่าไม่มี คนร้ายจึงลงจากรถพร้อมชักอาวุธปืนออกมาจ่อที่ท้องตน ก่อนจะพูดจาข่มขู่และตบเข้าที่ศีรษะอย่างแรงจนล้มลง คนร้ายอีกคนจึงรีบมาคร่อมรถตนก่อนจะชิงรถหลบหนีไป
นายร่วมบุญ ขันธโสภา อายุ 23 ปี อาชีพพนักงานร้านอาหารเอ็มเค เล่าว่า วันเกิดเหตุหลังจากเลิกงานตนได้ขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 มาที่หน้าตลาดบริเวณวัดเล่ยเน่ยยี่ อ.บางบัวทอง โดยมีคนร้าย 2 คนขับขี่จักรยานยนต์นำอยู่ข้างหน้า โดยคนร้ายทำที่เป็นรถเสียหลักล้ม เมื่อตนจอดรถลงไปช่วยเหลือคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถของตนหลบหนีไป
ด้าน พ.ต.ท.ปัญญากล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งหาข้อมูลแก๊งคนร้ายรายนี้จากวัยรุ่นในพื้นที่จนทราบว่าคนร้ายกลุ่มนี้จะออกตระเวนจี้ปล้นจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ซึ่งจะเน้นเฉพาะรถที่สภาพใหม่เพื่อมาขายต่อให้กับวัยรุ่นกวนเมืองที่ชอบแข่งรถในราคาคันละ 3,500 บาท โดยนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ เมื่อหมดเงินก็จะออกตระเวนก่อเหตุไปเรื่อย ถือว่าเป็นภัยอันตรายแบบใหม่ที่ต่างจากเมื่อก่อนที่คนร้ายจะใช้วิธีลักทรัพย์เอาในเวลากลางคืน แต่เดี๋ยวจะใช้วิธีออกปล้นจี้เอารถ ซึ่งหลักฐานใบซื้อรถและสำเนาเอกสารต่างๆ ที่อยู่ใต้เบาะก็ถูกคนร้ายเอาไปด้วย