คนร้ายยกเค้าบ้านเศรษฐี ย่านชานเมือง ได้ทรัพย์สินเป็นเครื่องเพชร พระเครื่อง เงินสด ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หลบหนีไปลอยนวล ตำรวจเชื่อ มืออาชีพ เพราะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เป็นหลักฐาน แม้แต่ลายนิ้วมือแฝง
วันนี้ (9 มี.ค.) เวลา 13.00 น. พ.ต.ท.บุญเลิศ รสลื่น พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.นิมิตรใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายยกเค้าบ้านนักธุรกิจรายหนึ่ง ภายในหมู่บ้านเค ซี โฮม การ์เด้น โครงการ 19 นิมิตรใหม่ 40 ถ.นิมิตรใหม่ แขวงคลองสามวาตะวันออก เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ ผกก.สน.นิมิตรใหม่ เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นเครื่องเพชร พระเครื่อง และเงินสด รวมมูลค่ากว่าสิบล้านบาท
จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (8 มี.ค.) ได้เห็นกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซึ่งขับรถเก๋ง ไม่ทราบยี่ห้อมาจอดแถวๆ หมู่บ้าน เมื่อสบโอกาสที่เห็นเจ้าของบ้านไม่อยู่ จึงลงมือเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านแล้วหลบหนีไป
พ.ต.อ.สมควร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว คาดว่า คนลงมือมีความชำนาญเป็นพิเศษ และเป็นมืออาชีพมาก เนื่องจากแทบไม่เหลือร่องรอยหลักฐานทิ้งเอาไว้เลย โดยมีการสวมถุงมืออย่างหนาแน่น ทำให้การตรวจสอบหาหลักฐานและลายนิ้วมือในระดับ สน.แทบจะเป็นไปไม่ได้ จึงต้องให้ทางกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.สส.บช.น.) เข้ามาช่วยเหลือในด้านการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
พ.ต.อ.สมควร กล่าวอีกว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ (กก.สส.บช.น.) ได้เข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานที่เกิดเหตุแล้ว เนื่องจากมีอุปกรณ์ในการตรวจสอบหาร่องรอยที่ดีกว่า แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุกลุ่มคนร้ายหรืออะไรได้ทั้งสิ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเจ้าของบ้านผู้เสียหายอยู่ จะต้องรอให้สอบปากคำเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี
วันนี้ (9 มี.ค.) เวลา 13.00 น. พ.ต.ท.บุญเลิศ รสลื่น พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.นิมิตรใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายยกเค้าบ้านนักธุรกิจรายหนึ่ง ภายในหมู่บ้านเค ซี โฮม การ์เด้น โครงการ 19 นิมิตรใหม่ 40 ถ.นิมิตรใหม่ แขวงคลองสามวาตะวันออก เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ ผกก.สน.นิมิตรใหม่ เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นเครื่องเพชร พระเครื่อง และเงินสด รวมมูลค่ากว่าสิบล้านบาท
จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (8 มี.ค.) ได้เห็นกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซึ่งขับรถเก๋ง ไม่ทราบยี่ห้อมาจอดแถวๆ หมู่บ้าน เมื่อสบโอกาสที่เห็นเจ้าของบ้านไม่อยู่ จึงลงมือเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านแล้วหลบหนีไป
พ.ต.อ.สมควร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว คาดว่า คนลงมือมีความชำนาญเป็นพิเศษ และเป็นมืออาชีพมาก เนื่องจากแทบไม่เหลือร่องรอยหลักฐานทิ้งเอาไว้เลย โดยมีการสวมถุงมืออย่างหนาแน่น ทำให้การตรวจสอบหาหลักฐานและลายนิ้วมือในระดับ สน.แทบจะเป็นไปไม่ได้ จึงต้องให้ทางกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.สส.บช.น.) เข้ามาช่วยเหลือในด้านการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
พ.ต.อ.สมควร กล่าวอีกว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ (กก.สส.บช.น.) ได้เข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานที่เกิดเหตุแล้ว เนื่องจากมีอุปกรณ์ในการตรวจสอบหาร่องรอยที่ดีกว่า แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุกลุ่มคนร้ายหรืออะไรได้ทั้งสิ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเจ้าของบ้านผู้เสียหายอยู่ จะต้องรอให้สอบปากคำเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี