ตำรวจ 191 จับ 2 คดี โจรลักรถด้วยเครื่องตัดสัญญาณจีพีเอส เพื่อนำไปปลอมทะเบียนขายในราคาถูกผ่านทางอินเทอร์เน็ต ให้ค่าจ้างคนนำรถมาส่งลูกค้าครั้งละ 3,000 บาท อีกคดีตำรวจล่อซื้อยาบ้า 900,000 บาท ที่นำมาขายให้วัยรุ่นย่านห้วยขวาง ก่อนนัดแนะมาส่งให้ที่ บางกอกรีสอร์ท ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม จึงรวบตัวยกแก๊ง รับสารภาพได้ค่าจ้างคนละ 20,000 บาท
วันนี้ (17 ก.พ.) เวลา 16.00 น. ที่กองกำกับการสายตรวจ 191 (บก.สปพ.) ถนนวิภาวดีรังสิต พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รรท.ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กัมปนาท โสภโณดร พ.ต.อ.ณภัทร จุลละบุษปะ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.สมชาย แจ้งธรรรมา สว.งานสายตรวจ3 บก.สปพ. ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายชานนท์ ชัยวงค์ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 21/ข หมู่5 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายรอด ไชยวงค์ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 0/89 หมู่1 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย และน.ส.รุ่งทิวา ไหญ่วงค์ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 55 หมู่ 4 ต.บ้านต้ำ อ.เมือง จ.พะเยา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 12,000 เม็ด รถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน สย 7424 กรุงเทพมหานคร อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ แบบออโตเมติก 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเงินล่อซื้อ 900,000 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่ บางกอกรีสอร์ท ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดให้แก่กลุ่มวัยรุ่นย่านห้วยขวาง ซึ่งผู้ต้องหาจะนำยาเสพติดมาพักไว้ก่อนที่สถานที่ดังกล่าว สายลับจึงทำการล่อซื้อยาบ้าจากกลุ่มผู้ต้องหา ราคา 900,000 บาท เมื่อถึงเวลานัดหมายผู้ต้องหาได้ส่งมอบยาบ้าแก่สายลับจึงแสดงตัวเข้าจับกุม จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การว่า ได้ค่าจ้างคนละ 20,000 บาท และนำยาบ้ามาจาก จ.เชียงราย โดยมีคนนำยาบ้ามาส่งให้ซึ่งไม่ทราบชื่อและนามสกุล พร้อมกำชับให้นำยาเสพติดมาขายให้กับลูกค้าในกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
อีกคดี เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายเอกวุฒิ หรือออฟ วรสิทธ์พิพัฒน์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 1679/9 ถนนเทิดไทย แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. และนายพงษกร โสดา อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 90 หมู่1 ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ พร้อมของกลาง รถกระบะอีซูซุ ดีแมค สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ถษ 3600 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์โตโยต้า คัมรี่ สีเทา ทะเบียนปลอม ศก 8960 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์โตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียนปลอม ฎต 5901 กรุงเทพมหานคร เครื่องตัดสัณญาณจีพีเอส อุปกรณ์งัดแงะต่างๆ แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์และสำเนาทะเบียนรถยนต์ปลอมจำนวนมาก โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ริมถนนราชวิถี หน้าโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม.
พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ของ กก.สายตรวจ บก.สปพ. สืบทราบว่า นายเอกวุฒิ มีพฤติกรรมหลอกลวงขายรถที่ถูกขโมยมาให้แก่ลูกค้าในราคาถูกทางอินเทอเน็ต โดยเปลี่ยนเลขเครื่อง ตัวถังรถใหม่ ทะเบียนปลอม และสำเนารถปลอม ซึ่งมีผู้เสียหายหลายมาก โดยวันนี้ได้สืบทราบมาว่าจะมีการนำรถมาส่งให้กับลูกค้าบริเวณริมถนนราชวิถี จึงนำกำลังเฝ้ารอ ต่อมาพบนายเอกวุฒินำรถกระบะอีซูซุ ดีแมค มาส่งให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมไว้ได้ จากการสอบสวน นายเอกวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า ไปรับรถคันดังกล่าวมาจากนายโตไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง โดยนายโตให้นำรถมาส่งให้ลูกค้าและได้ค่าจ้าง 3,000 บาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง กระทั่งมาถูกจับกุม ทั้งนี้ผู้ต้องหายังให้การอีกว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน คือ นายพงษกร ทำหน้าที่เป็นคนขโมยรถ เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมไว้ได้พร้อมของกลางที่เหลือ จึงแจ้งข้อหา ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ลักทรัพย์ หรือรับของโจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดรถหนีภาษีศุลกากรเป็น รถเบนซ์ สีดำ รุ่นอี 240 และรถเบนซ์ สีดำ รุ่นอี 200 ไม่ติดป้ายทะเบียนทั้งสองคันเอาไว้ได้อีก ภายในลานจอดรถของห้างเซ็นทรัลพระราม2 โดยเจ้าของรถเบนซ์นำมาจอดทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่นำกำลังซุ่มรออยู่แต่เจ้าของรถไม่ยอมมาเอารถ จึงคาดว่าน่าจะไหวตัวทันยอมทิ้งรถแล้วหลบหนีไปได้ก่อน จึงยึดรถทั้งสองคันไว้ตรวจสอบหาเจ้าของรถต่อไป