ตร.ประชุมชุดสืบล่ากระบะวีโก้แต่งซิ่งไล่ยิงรถชาวบ้านพรุน 4 คัน บาดเจ็บ 2 ล่าสุดพบมีรถชาวบ้านถูกยิงเพิ่มอีก 2 คัน ในท้องที่สุทธิสาร-ดุสิต พร้อมสอบปากคำพยานและสเกตซ์ภาพคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ระบุได้ภาพรถคนร้ายและป้ายทะเบียน แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เชื่อคนก่อเหตุเป็นพวกจิตไม่ปกติ ก่อกวน แต่ไม่ใช่คนบ้า และมีไม่ต่ำกว่า 2 คน
วันนี้(26 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สน.ประชาชื่นพล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เรียก พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก..สส.บก.น1 พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ประชาชื่น ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น และผู้เกี่ยวข้อง ประชุมเร่งรัดติดตามคนร้ายขับรถกระบะวีโก้ ไล่ยิงรถประชาชนก่อนขึ้นสะพานข้ามแยกประชานุกูล ไปจนถึงแยกวงศ์สว่าง ได้รับความเสียหาย 4 คัน และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ ส.ต.อ.สุริยา จันราช อายุ 35 ปี ก่อนหลบหนีไปได้ เมื่อกลางดึกวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า คดีนี้ทาง พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยเลยได้กำชับให้ตนลงมาดูคดีนี้ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก ทำร้ายคนโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้มีรถเสียหายทั้งหมด 4 คัน และเพิ่งได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่ายังมีรถที่ถูกคนร้ายยิงอีก 2 คัน ในท้องที่ สน.สุทธิสาร ยิงในอุโมงค์ข้ามแยกสุทธิสาร และท้องที่สน.ดุสิต ช่วงถนนพระราม5 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายในท้องที่สน.ดุสิต หลังจากประชุมเราได้ข้อมูลจากพยานที่เป็นประโยชน์อย่างมาก และหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ไปสเกตซ์ภาพคนร้ายจากที่พยานที่สอบปากคำไปแล้วและเห็นคนร้าย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยพยานและภาพสเกตซ์ได้ในขณะนี้ และจากพฤติกรรมของคนร้ายเชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และเป็นคนร้ายคนเดียวกันทั้งหมดที่ก่อเหตุยิงรถทั้งหมด 6 คัน
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบรถผู้เสียหายท้องที่ สน.สุทธิสาร พบว่าคนร้ายเป็นคนนั่งข้างคนขับเป็นคนยิง ส่วนที่ สน.ดุสิต คนขับรถเป็นคนลงมือยิงเอง ซึ่งจากการสอบปากคำผู้เสียหายท้องที่ สน.ดุสิต ทำให้ได้หลักฐานสำคัญ และขณะนี้เราก็มีภาพรถคันที่ก่อเหตุ และทะเบียนแล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ขอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ส่วนที่มีการระบุว่าจะเป็นแก๊งวัยรุ่นแถวจังหวัดนครปฐม ยังไม่โยงไปถึงจุดนั้น ตอนนี้เราเร่งหาตัวคนร้ายก่อน เพราะถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งดูจากวิถีกระสุนการยิงเป็นการตั้งใจยิงใส่ตัวบุคคลหวังผลให้ตาย ซึ่งเป็นข้อหาพยายามฆ่า สำหรับประเด็นในการก่อเหตุ ผู้เสียหายแต่ละคนที่ถูกไล่ยิงก็ไม่มีส่วนเชื่อมโยงกัน และไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครมาก่อน คนร้ายน่าจะเป็นพวกจิตไม่ปกติ ก่อกวน แต่ไม่ใช่คนบ้า ทั้งนี้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้อย่างแน่นอน
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า วันนี้จะแจกภาพรถกระบะวีโก้ ของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ ให้สื่อมวลชนช่วยเผยแพร่ เผื่อมีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ หรือคนที่เห็นและคุ้นเคยกับรถคันดังกล่าวจะได้มาให้ข้อมูลกับตำรวจ เพราะรถคนร้ายมีลักษณะโหลดเตี้ย และแต่งเครื่องเสียง ชอบเปิดเพลงเสียงดังและชอบอวด ซึ่งรถลักษณะนี้จะเป็นจุดเด่น น่าจะมีประชาชนพบเห็นอยู่บ่อยๆ ซึ่งหากใครมีเบาะแสสามารถติดต่อกับตำรวจได้ทุกที่ตลอดเวลา และหลังจากนี้จะมีการตั้งด่านตรวจเข้มงวดมากขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน เพราะก่อนหน้านี้เป็นช่วงน้ำท่วม แต่พอน้ำลดตำรวจก็จะเข้มงวดอย่างจริงจัง
จากนั้น พล.ต.ท.จรัมพร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันตรวจสอบวิถีกระสุนรถฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน ฎจ 9700 กรุงเทพมหานคร รถเบนซ์ 400 SEL สีเทา ทะเบียน ษง 8883 กรุงเทพมหานคร รถกระบะ ไฮลักซ์ไทเกอร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน ถณ 8898 กรุงเทพมหานคร และรถกระบะอีซูซุ ดีแมค สีน้ำเงิน ทะเบียน ตท 6247 กรุงเทพมหานคร ที่สน.ประชาชื่น เพื่อดูวิถีกระสุนที่คนร้ายยิง และดูกระสุนปืนที่ยังคาอยู่ในรถเบนซ์อีก 2หัว กับเศษทองแดงหุ้มหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. อีก 1 ชิ้น ไปตรวจสอบ ทั้งนี้ พล.ต.ท.จรัพร กล่าวว่า เบื้องต้นพบร่องรอยกระสุนปืนของรถทั้ง 6 คัน 17 รู คนร้ายจึงต้องยิงทั้งหมด 2 แม็กกาซีน แต่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นกระสุนชนิดเดียวกันทั้งหมดหรือไม่
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.จรัมพร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.สุทธิสาร และฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร เดินทางไปตรวจสอบตั้งแต่ทางลงอุโมงค์ข้ามแยกสุทธิสาร ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. ไปจนถึงทางขึ้นอุโมงค์ เพื่อหาปลอกกระสุนปืนของคนร้าย ว่าตรงกันกับที่ท้องที่สน.ประชาชื่น และสน.ดุสิต หรือไม่ แต่จากการตรวจสอบยังไม่พบปลอกกระสุนของคนร้าย จึงต้องรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้งว่า กระสุนปืนและเศษทองแดงหุ้มหัวกระสุนที่เก็บได้จากรถผู้เสียหายทั้ง 6 คัน เป็นกระสุนชนิดเดียวกันหรือไม่