ทูตอินเดียเข้าพบ ผบ.ตร.เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น 3 จุดกลางกรุง ขณะที่ “เพรียวพันธ์” ชี้แจงลักษณะการก่อเหตุคล้ายกับที่เกิดขึ้นในอินเดีย และ จอร์เจีย พร้อมประสานขอข้อมูลบางอย่างที่ไทยกับสถานทูตอินเดียมีความเชื่อมโยงกัน
วันนี้ (16 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอะนิล วาธวา (Mr.Anil Wadhwa) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย พร้อมคณะ เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ที่ห้องรับรอง อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยใช้เวลาการพูดคุยประมาณ 20 นาที
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า เอกอัครราชทูตอินเดียได้เข้าพบเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นภายใน ซ.ปรีดีพนมยงค์ 31 และ 35 รวมทั้งขอความร่วมมือในเรื่องต่างๆ ซึ่งได้แจ้งให้นายอะนิล ว่า ลักษณะการก่อเหตุคล้ายกับที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย และจอร์เจีย โดยมีการนำแม่เหล็กติดกับระเบิดเพื่อติดกับตัวรถ ขณะเดียวกันข้อมูลบางอย่างที่ทางการไทยและสถานทูตอินเดียมีก็เชื่อมโยงกัน ซึ่งทางสถานทูตมีทีมสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้เหมือนกันด้วย ทั้งนี้ ทางตำรวจก็จะให้ข้อมูลดังกล่าวผ่านทางกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
“สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยสถานทูตอิสราเอล และเจ้าหน้าที่ทูต ทางสำนักงานตำรวจฯจัดกำลังไปดูแลรักษาความปลอดภัยเต็มที่ และทางสถานทูตก็ขอความร่วมมือเรื่องนี้ ซึ่งอิสราเอลเองเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาหลายครั้ง เขาก็มีความระมัดระวังด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ต่างประเทศใดเข้ามาร่วมสอบสวน หรือจะขอเข้ามาก็ไม่มีสิทธิ์ ทั้งหมดเป็นอำนาจหน้าที่ของเรา” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เกิดความบกพร่องหรือหละหลวมตรงจุดไหนหรือไม่ ที่มีกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ยังมีกรณี นายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ที่จริงประเทศไทยเป็นประเทศท่องเที่ยว ด่านตรวจคนเข้าเมืองตามชายแดนเรามีจำนวนมาก ซึ่งต่อไปก็คงจะเข้มงวดเรื่องด่านการเข้า-ออก โดยจะเพิ่มความเข้มข้นทุกด่าน