“ผู้บัญชาการตำรวจสูงสุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ปฏิเสธไม่เคยมีแนวคิดเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. จาก “บิ๊กอ๊อบ” ไปเป็น “บิ๊กอ๊อด” ชี้เป็นอำนาจของ ก.ต.ช. แต่ยอมรับสนิทสนมกับ “ภาณุพงศ์” ตั้งแต่อยู่กองปราบฯ มาด้วยกัน
วันนี้ (3 ก.พ.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวยืนยันว่าไม่เคยมีแนวคิดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ไปเป็น พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะการเปลี่ยนตำแหน่งดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. แต่ยอมรับมีความสนิทสนมกับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ มาตั้งแต่ทำงานด้วยกันสมัยเมื่อครั้งตนเองเป็นสารวัตรอยู่กองปราบปราม โดยมี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เป็นรองสารวัตร
“สื่อบางแห่งสร้างข่าวที่ไม่เป็นจริง สร้างความแตกแยกภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่การทำงานด้านต่างๆ ของตำรวจเป็นไปด้วยดีอยู่แล้ว” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมาเมื่อครั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ได้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ใหม่ๆ โดยก่อนที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์จะขึ้นดำรงตำแหน่งนั้น ในขณะนั้นมีแคนดิเดตผู้ที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร.เพียง 2 คน คือ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กับพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ แม้แต่ ร.ต.อ.เฉลิมในขณะนั้นยังเคยกล่าวไว้ว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เก่งงานด้านยาเสพติด ส่วน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ถนัดงานปราบปราม และทั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์จะเกษียณอายุราชการพร้อมกันในวันที่ 30 ก.ย. 2555 นี้ แต่ในที่สุด พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ก็ได้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ต้องการดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่อยู่ในความฝันสูงสุดของนายตำรวจทุกคน
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ ซึ่งมีความสนิทสนมเป็นอย่างดีกับ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ต้องการที่ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.เช่นเดียวกัน แต่เรื่องดังกล่าวก็ไม่สามารถทัดทานกระแสหลักจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์นั้นเป็นพี่ชายร่วมสายเลือดเดียวกันกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงทำให้เกิดกระแสข่าวว่าอาจมีข้อตกลงอย่างสุภาพบุรุษกันบางประการระหว่าง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ โดยมี ร.ต.อ.เฉลิมเป็นตัวกลาง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เมื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ตร.ไปสักระยะหนึ่ง ซึ่งล่าสุดกระแสข่าวโหมกระพืออีกว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์จะดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.อยู่ประมาณ 6 เดือน จากนั้นจะลาออกไปเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เพื่อเปิดทางให้กับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ก่อนเกษียณอายุราชการ 5-6 เดือน ซึ่งย่อมเป็นไปได้ ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยยังคงดำรงสถานะเป็นรัฐบาลอยู่
วันนี้ (3 ก.พ.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวยืนยันว่าไม่เคยมีแนวคิดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ไปเป็น พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะการเปลี่ยนตำแหน่งดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. แต่ยอมรับมีความสนิทสนมกับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ มาตั้งแต่ทำงานด้วยกันสมัยเมื่อครั้งตนเองเป็นสารวัตรอยู่กองปราบปราม โดยมี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เป็นรองสารวัตร
“สื่อบางแห่งสร้างข่าวที่ไม่เป็นจริง สร้างความแตกแยกภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่การทำงานด้านต่างๆ ของตำรวจเป็นไปด้วยดีอยู่แล้ว” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมาเมื่อครั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ได้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ใหม่ๆ โดยก่อนที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์จะขึ้นดำรงตำแหน่งนั้น ในขณะนั้นมีแคนดิเดตผู้ที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร.เพียง 2 คน คือ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กับพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ แม้แต่ ร.ต.อ.เฉลิมในขณะนั้นยังเคยกล่าวไว้ว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เก่งงานด้านยาเสพติด ส่วน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ถนัดงานปราบปราม และทั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์จะเกษียณอายุราชการพร้อมกันในวันที่ 30 ก.ย. 2555 นี้ แต่ในที่สุด พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ก็ได้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ต้องการดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่อยู่ในความฝันสูงสุดของนายตำรวจทุกคน
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ ซึ่งมีความสนิทสนมเป็นอย่างดีกับ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ต้องการที่ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.เช่นเดียวกัน แต่เรื่องดังกล่าวก็ไม่สามารถทัดทานกระแสหลักจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์นั้นเป็นพี่ชายร่วมสายเลือดเดียวกันกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงทำให้เกิดกระแสข่าวว่าอาจมีข้อตกลงอย่างสุภาพบุรุษกันบางประการระหว่าง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ โดยมี ร.ต.อ.เฉลิมเป็นตัวกลาง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เมื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ตร.ไปสักระยะหนึ่ง ซึ่งล่าสุดกระแสข่าวโหมกระพืออีกว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์จะดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.อยู่ประมาณ 6 เดือน จากนั้นจะลาออกไปเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เพื่อเปิดทางให้กับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ก่อนเกษียณอายุราชการ 5-6 เดือน ซึ่งย่อมเป็นไปได้ ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยยังคงดำรงสถานะเป็นรัฐบาลอยู่
