จับอิหร่านอีกแล้ว..คราวนี้ลอบขนยาไอซ์ 123 ก้อน น้ำหนัก 900 กรัม มูลค่า 3.3 ล้าน ขณะเดินผ่านด่านตรวจแล้วมีพิรุธ จนท.เข้าขอตรวจค้นและนำตัวไปเอกซเรย์จนพบของกลางดังกล่าว ผู้ต้องหารับได้ค่าจ้างขนครั้งละ 5 หมื่นบาท แต่ไม่บอกว่าจะนำยาไปส่งให้ใคร
วันนี้ (16 ก.พ.) เวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายสดับ วัฒนเสถียร หัวหน้างานสืบสวนปราบปราม 1 นายวิศิษฐ์ พีรพัฒนานนท์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ และเจ้าหน้าที่ศุลกากรงานสืบสวนปราบปราม 1 ร่วมแถลงการจับกุม นายโมฮัมหมัด โคจัสเทห์ คาโทนาแบด (MR.MOHAMMAD KHOJASTEH KHATONABAD) อายุ 19 ปี และนายฮากีกัตมิราชราฟี ฮาเม็ด (MR.HAGHIGHATMIRASHRAFI HAMED) อายุ 22 ปี ชาวอิหร่านทั้งคู่ พร้อมของกลางไอซ์จำนวน 123 ก้อน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 900 กรัม มูลค่า 3.3 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
นายสมชายเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 20.20 น. เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรสำนักสืบสวนและปราบปรามประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับข้อมูลที่สืบทราบมาว่ามีชายชาวต่างชาติ ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ต่อมาเจ้าหน้าที่สังเกตพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมีอาการพิรุธ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นและนำตัวมาตรวจเอกซเรย์ พบวัตถุต้องสงสัยอยู่ในช่องท้อง จึงได้ให้ผู้ต้องหาถ่ายวัตถุต้องสงสัยออกมา พบว่านายโมฮัมหมัดซุกซ่อนวัตถุต้องสงสัยจำนวน 65 ก้อน น้ำหนักรวม 475 กรัม และนายฮากีกัสมิราชราฟี ฮาเม็ด จำนวน 58 ก้อน น้ำหนักรวม 430 กรัม จึงทำการทดสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาทดสอบสารเสพติด ปรากฏว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์)
นายสมชายกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การว่า ผู้ต้องหาเพิ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยเดินทางมาพร้อมกันจากเมืองดูไบ และได้ค่าจ้างขนยาเสพติดคนละประมาณ 50,000 บาท แต่ผู้ต้องหาไม่ได้บอกว่าจะนำไอซ์ไปส่งให้บุคคลกลุ่มใดและสถานที่ที่ไหน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครอง และนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
