ทนายความยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัว “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” จำเลยคดีหมิ่นเบื้องสูง อ้างเหตุ 5 ข้อขอศาลไต่สวน ชี้จำเลยไม่มีความผิด แต่ถูกรัฐบาลอภิสิทธิ์กลั่นแกล้ง เหิมหนักยกกรณีนายอริสมันต์ถูกดำเนินคดีฐานก่อการร้ายมีอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิตแต่ยังได้รับการประกันตัว นายสมยศเป็นเพียงแค่ผู้ถูกกล่าวหาต้องให้ประกัน
ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (16 ก.พ.) หลังจากนายปณิธาณ พฤกษาเกษมสุข ลูกชายนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา เพื่อประชาธิปไตย และบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ อดอาหารที่บริเวณหน้าศาลอาญามาครบกำหนด 112 ชั่วโมงแล้ว โดยนายปณิธานรับประทานโจ๊กคัพเป็นอาหารมื้อแรก
ต่อมานายคารม พลพรกลาง ทนายความพร้อมด้วยนายปณิธานได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอีกครั้ง หลังจากที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายสมยศมาแล้ว 6 ครั้ง
โดยระบุในคำร้องอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราวว่า คดีนี้จำเลยถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่ชั้นสอบสวนนานกว่า 10 เดือนแล้ว โดยจำเลยเคยขอให้ศาลเปิดการไต่สวน และยื่นคำร้องขอประกันตัวถึง 6 ครั้ง แต่ศาลยกคำร้อง ทั้งที่ความจริงปรากฏในสำนวนว่าจำเลยไม่คิดหลบหนี ตามคำเบิกความของพยานโจทก์ คือ ด.ต.หญิง กนกรักษ์ ต้นโลห์ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อีกทั้งระหว่างสืบพยานจำเลยถูกควบคุมให้เดินทางไปสืบประเด็นที่ศาลในต่างจังหวัดหลายแห่ง ต้องเดินทางกว่า 3,000 กม. ท่ามกลางอากาศร้อน โดยจำเลยขอให้สืบพยานที่ศาลอาญา หรือขอสละสิทธิตามประเด็น ก็ไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นจำเลยจึงไม่เห็นพ้องกับคำสั่งศาลชั้นต้น จึงขออุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้น มีประเด็นดังนี้
1. พยานเอกสารและพยานบุคคล ได้ยืนยันว่าจำเลยไม่คิดจะหลบหนี กล่าวคือ จำเลยเป็นสื่อมวลชน และมีอาชีพทำธุรกิจท่องเที่ยวในย่านอาเซียน เป็นปกติอยู่แล้ว และเข้าออกประเทศกัมพูชาเป็นประจำ ดังนั้นตำรวจที่ด่านจะรู้จักคุ้นเคยและจดจำจำเลยได้ดี การที่จำเลยถูกจับขณะเดินทางไปประเทศกัมพูชานั้น จึงไม่ใช่การเดินทางหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรเพื่อหลบหนีแต่อย่างใด
2. จำเลยไม่มีประวัติหนีคดีและไม่มีเหตุผลที่จะหลบหนีคดีนี้ เพราะจำเลยเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ต่อสู้เพื่อสิทธิผู้ใช้แรงงาน และสิทธิมนุษยชน เคยทำงานในสมาคมสิทธิเสรีภาพฯ นานกว่า 10 ปี เป็นที่รู้จักกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี จำเลยกับพวกที่เป็นนักวิชาการซึ่งไม่ได้เป็นแกนนำ หรือมีความเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดงที่ชุมนุมในขณะนั้น ได้ร่วมกันแถลงข่าวคัดค้านและประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเป็นการละเมิดสิทธิ์ของประชาชน จึงเป็นที่มาของการถูกจับตัวด้วยข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งครั้งนั้นนักวิชาการอื่นที่ออกมาเคลื่อนไหว ทางอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว คดีนี้แม้มีโทษรุนแรงตามมาตรา 112 แต่จำเลยเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และจำเลยก็เป็นพสกนิกรผู้จงรักภักดีคนหนึ่ง และมีประวัติที่ดีในการปกป้องสถาบัน เช่นคดีที่ศาลแขวงดุสิตทั้ง 3 คดี ที่ผ่านมาจำเลยไม่เคยถูกกล่าวหาละเมิดต่อพระมหากษัตริย์และจำเลยไม่ได้เป็นผู้เขียนข้อความดังกล่าว จำเลยไม่ใช่บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาข้อหาจึงมีมูลคดีที่เบาบาง
3. คดีนี้เป็นการเมืองที่จำเลยมีโอกาสชนะคดีมาก เพราะมูลเหตุมาจากความไม่พอใจของรัฐบาลนายอภิสิทธิ ที่มีต่อตัวจำเลยโดยไม่มีมูลความจริง เนื่องจากข้อกล่าวหาขาดเหตุผลทางคดี กล่าวคือกล่าวหาว่าผิดในฐานะเป็นบรรณาธิการนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ มีการนำบทความไปเผยแพร่ ทั้งที่จำเลยไม่ใช่บรรณาธิการ เนื่องจากผู้เขียนใช้นามปากการว่า “จิตร พลจันทร์” ที่ส่งมาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่จริงแล้วจำเลยเป็นเพียงคนทำงานคนหนึ่งในนิตยสารเท่านั้น 4. จำเลยถูกควบคุมเป็นการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน มีการปฏิบัติต่อจำเลยขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและฝ่าฝืนอนุสัญญาทรมานของสหประชาชาติ และเป็นการละเมิดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 39 ประกอบระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการปล่อยตัวชั่วคราวที่ว่า เมื่อศาลได้รับคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว ให้รีบพิจารณาและมีคำสั่งโดยเร็ว โดยให้ถือเป็นหลักว่าผู้ต้องหา หรือจำเลยพึงได้รับลการปล่อยตัวชั่วคราว เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ก็ให้ระบุเหตุผลไว้โดยครบถ้วนและชัดแจ้ง
5. นโยบายรัฐบาลปัจจุบันได้เสนอการปรองดองทุกภาคส่วน เพื่อให้สถานการณ์ความขัดแย้งได้คลี่คลายโดยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้นำเดินทางอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.49 อีกทั้ง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมกันใช้ตำแหน่งไปประกันตัวจำเลยมาตลอด ดังนั้นตนจึงขอให้ศาลอุทธรณ์กลับคำสั่งศาลชั้นต้น โดยให้มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างการพิจารณา หรือศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งให้ไต่สวนว่าจำเลยจะหลบหนีจริงหรือไม่ ขอให้ศาลอนุญาต
ภายหลัง นายคารมกล่าวว่า ได้ยื่นประกันตัวต่อศาลชั้นต้นมาแล้ว 6 ครั้ง ในวันนี้มายื่นขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์เป็นครั้งแรก เชื่อว่าหากนายสมยศ ได้รับการประกันตัวจะไม่หลบหนี เพราะนายสมยศ เป็นนักสู้ คดีนี้มีโทษสูงสุดไม่เกิน 15 ปี แต่กลับไม่ได้รับการประกันตัว อย่างเช่นกรณีที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ถูกดำเนินคดีฐานก่อการร้าย มีอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิต แต่ยังได้รับการประกันตัว นายสมยศเป็นเพียงแค่ผู้ถูกกล่าวหา และเป็นแค่บรรณาธิการนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ เนื้อหาไม่มีข้อความหมิ่นประมาท หรือรุนแรงแต่อย่างใด หลังจากนี้จะรอผลคาดว่าคงไม่เกิน 3 วัน คงต้องรอผลการพิจารณาของศาลว่าจะออกมาเช่นไร หากไม่ได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวจะต้องพิจารณายื่นขอประกันอีกครั้ง