นครบาลฟิต! ลุยตรวจผับ “รัชดาฯ-พญาไท” พบปล่อยเด็กมั่วสุม

นครบาล นำชุด “ปะ-ฉะ-ดะ - สายตรวจสายสมร” กว่า 100 นาย ลุยตรวจผับย่านรัชดาฯ ตามนโยบายปราบปรามยาเสพติด แต่คว้าน้ำเหลวไม่พบนักเที่ยวฉี่ม่วงแต่อย่างใด ด้านตำรวจ ดส.จับเจ้าของร้านสวนสยามบาร์ ย่านพญาไท ปล่อยเยาวชนเข้าไปมั่วสุม

วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อเวลา 00.00 น. พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รักษาการ ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ร่วมกับชุดจู่โจมปะ-ฉะ-ดะ ตำรวจหญิงสายตรวจสายสมร จำนวน 133 นาย เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงย่านรัชดาฯ ได้แก่ ร้านจี-สตาร์ (G-STAR) รัชดาฯ ซ.8 และ ร้านสปูน (SPOON) รัชดา ซ.6 เพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายและตรวจหาสารเสพติดจากนักเที่ยวราตรี

พ.ต.อ.พชร เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยจะมีการปิดล้อมตรวจสถานที่ที่เข้าข่ายทุกกองบังคับการ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งการปิดล้อมที่ผ่านมานั้นได้ทำให้ราคายาเสพติดมีราคาสูงขึ้น แสดงว่า การกดดันที่ผ่านมามีประสิทธิภาพ โดยเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ได้ให้ผลตอบรับค่อนข้างดี ทั้งนี้ ถ้าตำรวจเข้าตรวจค้นอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องจะมีผลอย่างมาก ซึ่งการเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงจะขออนุญาตเปิดไฟและยึดไมโครโฟนดีเจ เพื่อให้เห็นสถานที่ทั้งหมดและง่ายต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย อย่างไรก็ตามผลการตรวจปัสสาวะไม่พบนักเที่ยวทั้งชายและหญิงมีสารเสพติดแต่อย่างใด

วันเดียวกัน พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รองผู้กำกับการกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รองผกก.กก.ดส.บชน.) นำกำลังเข้าตรวจสอบร้านสวนสยามบาร์ ย่านโคโค่วอร์ค ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม.หลังจากสืบทราบว่ามีการปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ

จากการตรวจสอบพบเด็กวัยรุ่นชายรวมกว่า 17 คน กำลังนั่งดื่มสุรา ตรวจสอบทั้งหมดพบว่าอายุระหว่าง 15 -17 ปี จึงควบคุมตัวทำประวัติก่อนประสานผู้ปกครองมารับตัวกลับ นอกจากนี้พบว่าร้านดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา

สอบสวน นายวรพล เคนประแดง เจ้าของร้านซึ่งอ้างว่าเป็นผู้สื่อข่าวอยู่สำนักข่าวแห่งหนึ่งให้การว่าร้านดังกล่าวเปิดมากกว่า 1 ปี ส่วนเยาวชนที่เข้ามาใช้บริการนั้นไม่ทราบว่าอายุไม่ถึง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สำควรมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท