ภาค 1 เผยเครือข่าย “นิพนธ์ กันชาติ” ค้ายาพันล้านยังมีพวกร่วมขบวนการหลบหนีอีก 5-6 ราย พบเส้นทางการเงินกระจายไปแล้วกว่า 22 เครือข่าย หวั่นแก๊งค้ายาฆ่าตัดตอนกันเอง วอนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเชื่อมโยงเส้นทางการเงินเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเรียกถกทีมสืบสวนเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดี
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวถึงการติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดพันล้านที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้านเช่าในอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ของเครือข่ายนายนิพนธ์ กันชาติ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ว่า แนวทางการสืบสวนสอบขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งติดตามรวบตัวผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวที่ยังหลบหนีอยู่อีก 5-6 ราย ซึ่งที่ผ่านมาผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้วได้ให้การเป็นประโยชน์ หากพาดพิงถึงใครเจ้าหน้าที่จะขออำนาจศาลออกหมายจับทันที
พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนเส้นทางการเงินพบว่ามีการกระจายไปแล้วกว่า 22 เครือข่าย จึงขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกขบวนการค้ายาด้วยกันอาจฆ่าตัดตอนได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีนโยบายฆ่าตัดตอนอย่างแน่นอน เพราะถ้าจะทำไปนานแล้ว
พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวด้วยว่า ได้เตรียมเรียกทีมสืบสวนสอบสวนประชุมเร่งรัดติดตามคดีอีกครั้งหลังจากได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยลงพื้นที่และสืบสวนหาข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ทีมสืบสวนฯ ภาค 1 ได้จับกุมนายนิพนธ์ กันชาติ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ หลังเข้าตรวจค้นบ้านเช่าที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี และตรวจพบของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 3.8 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 71 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนภาค 1 ได้ติดตามจับกุมนายธัชกร หรือโจ๊ก ช่อสัตย์ธรรม มือขวาคนสนิทของนายนิพนธ์ได้ จึงนำตัวไปขยายผลโดยนายธัชกรรับสารภาพว่าวันเกิดเหตุที่รถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌป-7510 กทม.ที่นายนิพนธ์ขับหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดพลิกคว่ำจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ และนายนิพนธ์ได้โทรศัพท์ให้นายธัชกรมารับตัวพาหลบหนีไปหลบซ่อนตัวที่บ้านพักย่านคลอง 4 อีกหลังหนึ่ง ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบได้นำหมายศาลธัญบุรีเข้าตรวจค้นในบ้านพักพบตัวนายนิพนธ์ จึงนำตัวไปสอบสวนยังศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อขยายผลต่อไป