ดีเอสไอแถลงโชว์จับกุมสองสามีภรรยาเครือข่ายค้ายาเสพติดภาคเหนือ โดยเปิดธุรกิจนำเข้าหินอ่อนจากพม่า เพื่อแกะสลักส่งออกขายต่างประเทศบังหน้า พร้อมยึดทรัพย์กว่า 40 ล้านบาท
วันนี้ (2 ก.พ.) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงการจับกุมนายดาวชัย ภู่วิจิตรถาวรชัย และนางประณิพร ภู่วิจิตรถาวรชัย สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ พร้อมยึดของกลางเป็นหยกขาวแกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร ความสูง 5 เมตร มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท หยกขาวแกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือ มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท รวมทั้งหยกขาวที่ยังไม่ได้แกะสลัก แหวนและสร้อยคอทองคำจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีธนาคาร บ้านพร้อมที่ดินจำนวน 6 หลัง และโรงงานอีกจำนวน 2 แห่ง
พ.ต.อ.ญาณพลกล่าวต่อว่า การจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดในภาคเหนือ ซึ่งเปิดธุรกิจนำเข้าหินอ่อนจากประเทศพม่า เพื่อนำมาแกะสลักส่งออกไปยังต่างประเทศและจำหน่ายในประเทศไทยเป็นการบังหน้า โดยจดทะเบียนบริษัทในชื่อบริษัท ภูซิสส์ อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งนายดาวชัย ภู่วิจิตรถาวรชัย ผู้ต้องหาเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าว
รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ปลายปี 2553 เจ้าหน้าที่จากหน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (DEA) สืบสวนจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดภาคเหนือ ทั้งที่จำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ เช่น เฮโรอีน และยาไอซ์ ต่อมาดีเอสไอได้ส่งสายลับและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ อำพรางแฝงตัวเข้าไปอยู่ในขบวนการของเครือข่ายดังกล่าว เพื่อสืบหาหลักฐานและสร้างความสัมพันธ์ให้ผู้ต้องหาไว้เนื้อเชื่อใจ โดยเริ่มจากการเข้าไปติดต่อทำธุรกิจหินอ่อนแกะสลัก แล้วขยายผลจนสืบทราบว่ามีการลักลอบค้ายาเสพติดจริง จึงแจ้งให้สายลับทำการล่อซื้อเฮโรอีน จำนวน 1 แท่ง น้ำหนัก 500 กรัม โดยใช้เงินล่อซื้อ 400,000 บาท โดยเมื่อถึงเวลานายดาวชัยและนายเอ (ไม่ทราบชื่อจริง) ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีได้ขับรถและนำยาเสพติดมาส่งมอบให้สายลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอต้องการจะขยายผลและล่อซื้อยาเสพติดในปริมาณที่มากขึ้น จึงยังไม่ได้จับกุมผู้ต้องหาในทันที แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีการปราบปรามจับกุมยาเสพติดอย่างหนัก ทำให้เครือข่ายค้ายาเสพติดมีความระมัดระวังตัวมากขึ้น และเกรงว่าหยกสีขาวแกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิมมูลค่าสูง 10 ล้านบาท จะถูกจำหน่ายออกไป ดีเอสไอจึงตัดสินใจนำหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองราย พร้อมทำการยึดทรัพย์ของกลาง มูลค่ารวมเกือบ 40 ล้านบาท ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ดีเอสไอต้องการยึดทรัพย์สิน เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้ทราบว่าสุดท้ายแล้วทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดก็จะต้องตกเป็นของรัฐ ซึ่งจะประสานให้ ป.ป.ส.ทำการประมูลและขายทอดตลาดตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (2 ก.พ.) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงการจับกุมนายดาวชัย ภู่วิจิตรถาวรชัย และนางประณิพร ภู่วิจิตรถาวรชัย สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ พร้อมยึดของกลางเป็นหยกขาวแกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร ความสูง 5 เมตร มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท หยกขาวแกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือ มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท รวมทั้งหยกขาวที่ยังไม่ได้แกะสลัก แหวนและสร้อยคอทองคำจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีธนาคาร บ้านพร้อมที่ดินจำนวน 6 หลัง และโรงงานอีกจำนวน 2 แห่ง
พ.ต.อ.ญาณพลกล่าวต่อว่า การจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดในภาคเหนือ ซึ่งเปิดธุรกิจนำเข้าหินอ่อนจากประเทศพม่า เพื่อนำมาแกะสลักส่งออกไปยังต่างประเทศและจำหน่ายในประเทศไทยเป็นการบังหน้า โดยจดทะเบียนบริษัทในชื่อบริษัท ภูซิสส์ อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งนายดาวชัย ภู่วิจิตรถาวรชัย ผู้ต้องหาเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าว
รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ปลายปี 2553 เจ้าหน้าที่จากหน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (DEA) สืบสวนจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดภาคเหนือ ทั้งที่จำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ เช่น เฮโรอีน และยาไอซ์ ต่อมาดีเอสไอได้ส่งสายลับและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ อำพรางแฝงตัวเข้าไปอยู่ในขบวนการของเครือข่ายดังกล่าว เพื่อสืบหาหลักฐานและสร้างความสัมพันธ์ให้ผู้ต้องหาไว้เนื้อเชื่อใจ โดยเริ่มจากการเข้าไปติดต่อทำธุรกิจหินอ่อนแกะสลัก แล้วขยายผลจนสืบทราบว่ามีการลักลอบค้ายาเสพติดจริง จึงแจ้งให้สายลับทำการล่อซื้อเฮโรอีน จำนวน 1 แท่ง น้ำหนัก 500 กรัม โดยใช้เงินล่อซื้อ 400,000 บาท โดยเมื่อถึงเวลานายดาวชัยและนายเอ (ไม่ทราบชื่อจริง) ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีได้ขับรถและนำยาเสพติดมาส่งมอบให้สายลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอต้องการจะขยายผลและล่อซื้อยาเสพติดในปริมาณที่มากขึ้น จึงยังไม่ได้จับกุมผู้ต้องหาในทันที แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีการปราบปรามจับกุมยาเสพติดอย่างหนัก ทำให้เครือข่ายค้ายาเสพติดมีความระมัดระวังตัวมากขึ้น และเกรงว่าหยกสีขาวแกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิมมูลค่าสูง 10 ล้านบาท จะถูกจำหน่ายออกไป ดีเอสไอจึงตัดสินใจนำหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองราย พร้อมทำการยึดทรัพย์ของกลาง มูลค่ารวมเกือบ 40 ล้านบาท ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ดีเอสไอต้องการยึดทรัพย์สิน เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้ทราบว่าสุดท้ายแล้วทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดก็จะต้องตกเป็นของรัฐ ซึ่งจะประสานให้ ป.ป.ส.ทำการประมูลและขายทอดตลาดตามกฎหมายต่อไป