รวบเพิ่มอีก 2 ร่วมแก๊งปล้นเงินนักธุรกิจชาวอินเดีย ยึดของกลางเพิ่มกว่า 2 ล้าน รวมที่ยึดได้ก่อนหน้านี้กว่า 54 ล้าน โดยหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นทหาร และที่ยังหลบหนีอยู่ก็เป็นทหาร ขณะตำรวจเชื่อว่าจะจับตัวได้เร็วๆ นี้
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สน.บางรัก พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง รรท.ผบก.น.6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผกก.สน.บางรัก เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปรามและฝ่ายสืบสวน แถลงการจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 ราย คือ นายชวนชม หรืออ้วน ศรีจันทร์ อายุ 29 ปี จับได้ที่กุฏิวัดหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และนายวีรยุทธ หรือเอ หรือพลอาสาสมัคร วีรยุทธ งามเขียว อายุ 24 ปี รับราชการทหารในตำแหน่งพลสารวัตรหมวด 1 ร้อย 1 กองสารวัตรทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมของกลางเป็นเงินสกุลประเศต่างๆ คิดเป็นเงินไทย 2,645,955 บาท อาวุธปืน 2 กระบอก, ซองกระสุนปืนพร้อมกระสุนปืน, บัตรเอทีเอ็ม ธ.ทหารไทยจำกัด 1 ใบ, เงินสด 1,190 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง พร้อมซิม 1 เครื่อง, สร้อยคอทองเหลือง พร้อมพระกรอบสีทองเหลือง 1 เส้น, แหวนทองเหลือง 1 วง และกระเป๋าคาดเอวสีดำ 1 ใบ โดยจับกุมตัวได้ที่ข้างโรงเรียนห้วยแคนโนนสูง หมู่ที่ 12 ต.หนองแวง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม และจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดและได้จำนวนเงินของกลางเป็นเงินสกุลต่างๆ กลับคืนมาได้ คิดเป็นเงินไทย รวมทั้งสิ้น 54,751,666.73 บาท
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาแก๊งนี้ได้ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ 5 คน ใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ นายอับดุลลา ราฮูมาน อายุ 52 ปี นักธุรกิจชาวอินเดีย เจ้าของร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ขณะกำลังนั่งรถส่วนตัวบริเวณถนนสี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก โดยคนร้ายใช้วิธีขับรถยนต์ 2 คันตามประกบ แล้วลงไปใช้ปืนข่มขู่พร้อมกับใช้ค้อนปอนด์ทุบกระจกรถจนแตก แล้วปล้นกระเป๋าธนบัตรหลายสกุลจากในรถผู้เสียหายแล้วหลบหนีไป
พ.ต.อ.วัลลภเปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. บก.สส.บก.น.6 และ สน.บางรัก ได้หาเบาะแสของกลุ่มคนร้ายดังกล่าวไปบางส่วน จนกระทั่งสืบทราบขยายผลและสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ โดยทราบว่านายชวนชม หรืออ้วน ได้หลบหนีไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และได้เข้าค้นภายในกุฏิพบของกลางดังกล่าว จากนั้นได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมทันที หลังจากนั้นได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำหมายศาลจับกุมนายวีรยุทธ หรือเอ ผู้ต้องหารายที่ 2 ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยนายชวนชม ซึงเป็นผู้มีหน้าที่ยกกระเป๋าเงินออกจากรถผู้เสียหาย และนายวีรยุทธเป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนจี้คนขับรถของผู้เสียหาย จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งศาลเพื่อพิจาณาคดีต่อไป
นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมอีก 1 ราย คือ นายอุตรพงษ์ หรือกุ้ง กางนอก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้เลขที่ 47/2555 ลงวันที่ 26 ม.ค.55 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจอีกไม่นานจะจับกุมได้ เพราะผู้ต้องหารายที่ยังหลบหนีอยู่นั้นรับราชการทหารเช่นกัน
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ สน.บางรัก พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง รรท.ผบก.น.6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผกก.สน.บางรัก เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปรามและฝ่ายสืบสวน แถลงการจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 ราย คือ นายชวนชม หรืออ้วน ศรีจันทร์ อายุ 29 ปี จับได้ที่กุฏิวัดหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และนายวีรยุทธ หรือเอ หรือพลอาสาสมัคร วีรยุทธ งามเขียว อายุ 24 ปี รับราชการทหารในตำแหน่งพลสารวัตรหมวด 1 ร้อย 1 กองสารวัตรทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมของกลางเป็นเงินสกุลประเศต่างๆ คิดเป็นเงินไทย 2,645,955 บาท อาวุธปืน 2 กระบอก, ซองกระสุนปืนพร้อมกระสุนปืน, บัตรเอทีเอ็ม ธ.ทหารไทยจำกัด 1 ใบ, เงินสด 1,190 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง พร้อมซิม 1 เครื่อง, สร้อยคอทองเหลือง พร้อมพระกรอบสีทองเหลือง 1 เส้น, แหวนทองเหลือง 1 วง และกระเป๋าคาดเอวสีดำ 1 ใบ โดยจับกุมตัวได้ที่ข้างโรงเรียนห้วยแคนโนนสูง หมู่ที่ 12 ต.หนองแวง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม และจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดและได้จำนวนเงินของกลางเป็นเงินสกุลต่างๆ กลับคืนมาได้ คิดเป็นเงินไทย รวมทั้งสิ้น 54,751,666.73 บาท
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาแก๊งนี้ได้ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ 5 คน ใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ นายอับดุลลา ราฮูมาน อายุ 52 ปี นักธุรกิจชาวอินเดีย เจ้าของร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ขณะกำลังนั่งรถส่วนตัวบริเวณถนนสี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก โดยคนร้ายใช้วิธีขับรถยนต์ 2 คันตามประกบ แล้วลงไปใช้ปืนข่มขู่พร้อมกับใช้ค้อนปอนด์ทุบกระจกรถจนแตก แล้วปล้นกระเป๋าธนบัตรหลายสกุลจากในรถผู้เสียหายแล้วหลบหนีไป
พ.ต.อ.วัลลภเปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. บก.สส.บก.น.6 และ สน.บางรัก ได้หาเบาะแสของกลุ่มคนร้ายดังกล่าวไปบางส่วน จนกระทั่งสืบทราบขยายผลและสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ โดยทราบว่านายชวนชม หรืออ้วน ได้หลบหนีไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และได้เข้าค้นภายในกุฏิพบของกลางดังกล่าว จากนั้นได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมทันที หลังจากนั้นได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำหมายศาลจับกุมนายวีรยุทธ หรือเอ ผู้ต้องหารายที่ 2 ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยนายชวนชม ซึงเป็นผู้มีหน้าที่ยกกระเป๋าเงินออกจากรถผู้เสียหาย และนายวีรยุทธเป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนจี้คนขับรถของผู้เสียหาย จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งศาลเพื่อพิจาณาคดีต่อไป
นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมอีก 1 ราย คือ นายอุตรพงษ์ หรือกุ้ง กางนอก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้เลขที่ 47/2555 ลงวันที่ 26 ม.ค.55 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจอีกไม่นานจะจับกุมได้ เพราะผู้ต้องหารายที่ยังหลบหนีอยู่นั้นรับราชการทหารเช่นกัน
