ทีมสอบสอนคดี “อาทริส” เผย มีวัตถุพยานและเอกสารเพิ่มเติมจากร้านค้าและโรงแรมตามที่ “อาทริส” และ “เปาโล” ซึ่งถูกออกหมายจับเคยไปพัก ชี้ การเปรียบเทียบถุงทรายอนามัยของแมว กับถุงทรายที่ผู้ต้องหาใช้บรรจุแอมโมเนียไนเตรต พบว่า แตกต่างกันกำลังเร่งตรวจหาแหล่งที่มา
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ห้องประชุม 517 ชั้น 5 อาคารจุลละพราหมณ์ บช.ตชด. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป. ตำรวจ บก.สส.บช.น., บก.ป.ตำรวจ บช.ภ.7, เจ้าหน้าที่ พฐ.และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีจับกุม นายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน ผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ โดยครอบครองสารประกอบวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย รวมถึงการออกหมายจับ นายเปาโล หรือ ซามิ แซม หรือ เจมมี่ เปาโล อายุ 42 ปี เพื่อนร่วมขบวนการ
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกลาง ที่พบซึ่งมีทั้งหมด 2 ส่วน คือ จากตัวผู้ต้องหาและจากบ้านที่เกิดเหตุ โดยจะนำไปผ่านกระบวนการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับทาง พฐ.และกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด โดย พล.ต.ท.จรัมพร จะเป็นผู้ดูแลและอยู่ระหว่างดำเนินการ นอกจากนี้ ยังมีวัตถุพยานและพยานเอกสารที่ได้เพิ่มเติมทั้งร้านค้าที่เราไปตรวจสอบและโรงแรมที่ไปพัก ซึ่งจะต้องตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังได้เปรียบเทียบถุงทรายอนามัยสำหรับแมว กับถุงทรายที่คนร้ายใช้บรรจุแอมโมเนียมไนเตรต พบว่า มีความแตกต่างกัน เพราะถุงของคนร้ายนั้นดูแน่นหนากว่าปกติ ซึ่งตำรวจกำลังตรวจสอบตามร้านที่ผู้ต้องหาไปซื้อคงต้องใช้เวลา
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังคงแจ้งเพียงข้อหาเดียว คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ โดยรอผู้ชำนาญตรวจพิสูจน์ของกลางพร้อมทั้งตรวจสอบถึงส่วนประกอบอีกครั้ง หากมีเรื่องวัตถุระเบิดอาจแจ้งข้อหาครอบครองวัตถุระเบิดเพิ่ม หรือ หากนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ทั้งนี้ หากได้ผลตรวจสอบมาแล้วจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อถามว่า ผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ หรือไม่ พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางกองปราบปรามกำลังดำเนินการอยู่ทั้งเรื่องของเครือข่าย และการข่าวทั้งหมด รวมทั้งเรื่องการสอบสวนค้นหาความจริง ซึ่งจะต้องรอผลรายงานประกอบอย่างชัดเจนถึงจะพูดได้ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายมากน้อยแค่ไหน ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้น ทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อยู่ระหว่างร่วมติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ห้องประชุม 517 ชั้น 5 อาคารจุลละพราหมณ์ บช.ตชด. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป. ตำรวจ บก.สส.บช.น., บก.ป.ตำรวจ บช.ภ.7, เจ้าหน้าที่ พฐ.และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีจับกุม นายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน ผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ โดยครอบครองสารประกอบวัตถุระเบิดผิดกฎหมาย รวมถึงการออกหมายจับ นายเปาโล หรือ ซามิ แซม หรือ เจมมี่ เปาโล อายุ 42 ปี เพื่อนร่วมขบวนการ
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกลาง ที่พบซึ่งมีทั้งหมด 2 ส่วน คือ จากตัวผู้ต้องหาและจากบ้านที่เกิดเหตุ โดยจะนำไปผ่านกระบวนการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับทาง พฐ.และกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด โดย พล.ต.ท.จรัมพร จะเป็นผู้ดูแลและอยู่ระหว่างดำเนินการ นอกจากนี้ ยังมีวัตถุพยานและพยานเอกสารที่ได้เพิ่มเติมทั้งร้านค้าที่เราไปตรวจสอบและโรงแรมที่ไปพัก ซึ่งจะต้องตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังได้เปรียบเทียบถุงทรายอนามัยสำหรับแมว กับถุงทรายที่คนร้ายใช้บรรจุแอมโมเนียมไนเตรต พบว่า มีความแตกต่างกัน เพราะถุงของคนร้ายนั้นดูแน่นหนากว่าปกติ ซึ่งตำรวจกำลังตรวจสอบตามร้านที่ผู้ต้องหาไปซื้อคงต้องใช้เวลา
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังคงแจ้งเพียงข้อหาเดียว คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ โดยรอผู้ชำนาญตรวจพิสูจน์ของกลางพร้อมทั้งตรวจสอบถึงส่วนประกอบอีกครั้ง หากมีเรื่องวัตถุระเบิดอาจแจ้งข้อหาครอบครองวัตถุระเบิดเพิ่ม หรือ หากนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ทั้งนี้ หากได้ผลตรวจสอบมาแล้วจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อถามว่า ผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ หรือไม่ พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางกองปราบปรามกำลังดำเนินการอยู่ทั้งเรื่องของเครือข่าย และการข่าวทั้งหมด รวมทั้งเรื่องการสอบสวนค้นหาความจริง ซึ่งจะต้องรอผลรายงานประกอบอย่างชัดเจนถึงจะพูดได้ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายมากน้อยแค่ไหน ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้น ทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อยู่ระหว่างร่วมติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว