เจ้าของซีวิคไล่ยิงกระบะให้ปากคำ ตร.อ้างมีปากเสียงในผับก่อนขับรถไล่ยิงกัน

ตร.เผย โจ๋ 19 เจ้าของรถซีวิคที่ซิ่งไล่ยิงกระบะจนเสียหลักชนเกาะกลางทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ ระบุสาเหตุเกิดจากมีปากเสียงกับคู่กรณีในผับแห่งหนึ่ง ก่อนจะขับรถไล่ยิงตั้งแต่แยกมไหสวรรย์ และไล่จนมาถึงจุดเกิดเหตุ ตร.เร่งเช็กวงจรปิดตลอดเส้นทาง

วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สน.ราษฎร์บรณะ พล.ต.ต.พิสิทธิ์ พิสุทธิศักดิ์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่กลุ่มคนร้ายก่อเหตุอุกอาจใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นบนรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ศพ ประกอบด้วย นายสมชาย สนธิพงษ์ อายุ 20 ปี, นายวรวุฒิ วิชชุปัญญาพงศ์ อายุ 23 ปี, นายอารมณ์ แซ่เล้า อายุ 23 ปี, นายชวาล ทองประดิษฐ์ อายุ 18 ปี และนายนที เอี่ยมสา อายุ 19 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย

ทั้งนี้ พล.ต.ต.พิสิทธิ์ระบุว่า ล่าสุดผู้ที่อยู่ในรถคันก่อเหตุทราบชื่อเล่นว่า นายเป๊ปซี่ อายุ 19 ปี เป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าซีวิคคันที่ใช้ก่อเหตุ เข้าให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวน โดยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากการมีปากเสียงกันในสถานบริการในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร และใช้อาวุธ 2 กระบอกก่อเหตุ ขนาด .380 และ 6.35 ในการก่อเหตุ ซึ่งมีผู้อยู่ในรถยนต์ซีวิค รวม 6 คน โดยคู่กรณีดังกล่าวก่อเหตุมาตั้งแต่แยกมไหสวรรย์ และไล่จนมาถึงจุดเกิดเหตุ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้ตายทั้ง 5 ราย เสียชีวิตจากการกระแทก ทั้งนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง

ด้านพ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ เปิดเผยความคืบในคดี ว่า หนึ่งในคนร้ายได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ส่วนผู้ร่วมกระทำผิดอีก 5 คนเป็นวัยรุ่นอายุประมาณ 19 -22 ปีที่อยู่ในพื้นที่ราษฎร์บูรณะ ขณะนี้ตำรวจทราบชื่อ และนามสกุลจริงแล้ว โดยเตรียมขอศาลออกหมายจับในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ส่วนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาจะต้องรอพิจารณาหลักฐานว่าใครเป็นผู้ลงมือยิงจึงจะแจ้งข้อหาดังกล่าว เนื่องจากผลจากการยิงส่งผลให้รถเสียหลักจนทำให้มีผู้เสียชีวิต

พ.ต.อ.มานพ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการสอบปากคำนายเอกรินทร์ นิลใบ หรือเป็ปซี่ ได้รับสารภาพว่า ตอนเกิดเหตุตนเองอยู่ในรถคันที่ก่อเหตุจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิง และพยายามห้ามปรามเพื่อนไม่ให้ก่อเหตุ แต่เพื่อนไม่ฟัง ซึ่งหลังเกิดอุบัติเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนีไป ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรนายเอกรินทร์ พบว่ายังเคยถูกดำเนินคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ในท้องที่สน.บางยี่ขัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับทางกรมการทหารสื่อสาร เพื่อเข้าจับกุมนายเต่า(ไม่ทราบนามสกุล) ทหารเกณฑ์สังกัดกรมทหารสื่อสาร ที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย

โจ๋โหด! ซิ่งซีวิคไล่ยิงอริจนรถเสียหลักชนเกาะกลางตาย 3 เจ็บ 4