xs
xsm
sm
md
lg

ออกหมายจับ"เจมส์ แซมมี่ เปาโล"ร่วมแก๊ง “อาทริส ฮุสเซน”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)  นายอาทริส ฮุซเซน ชาวเลบานอน  ผู้ต้องหาครอบครองสารตั้งต้นผลิตระเบิด
ศาลอนุมัติออกหมายจับ "เจมส์ แซมมี่ เปาโล" พรรคพวกร่วมแก๊ง “อาทริส ฮุสเซน” สมาชิกฮิซบอลเลาะห์ ยังไม่ชัดหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือยัง พร้อมส่งภาพสเกตช์ให้หน่วยข่าวกรองต่างชาติ ช่วยติดตามจับกุม ขณะที่ ผบ.ตร.เชื่อว่าคนร้ายไม่มีเป้าหมายก่อการร้ายในไทย

วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีจับกุม นายอาทริส ฮุซเซน ชาวเลบานอน ผู้ต้องหามีไว้ซึ่งสารตั้งต้นผลิตวัตถุระเบิด และสมาชิกเครือข่ายฮิซบอลเลาะห์ ว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายอาทริส ถือ 2 สัญชาติ คือ เลบานอน และสวีเดน ซึ่งมีการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 1 คน แต่เป็นเพียงการออกหมายจับตามภาพสเกตช์ที่ได้ตามคำให้การนายอาทริส รวมถึงเจ้าของบ้านเช่าที่เห็นผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย มาร่วมเช่าบ้านหลังดังกล่าวกับนายอาทริส โดยทราบชื่อแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งชายคนนี้อยู่กับ นายอาทริส ภายในบ้านที่ จ.สมุทรสาคร นานนับเดือน จึงเชื่อว่า ร่วมกันบรรจุปุ๋ยยูเรียลงในถุงทรายแมว ส่วนจะออกนอกประเทศไทยไปแล้วหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ไม่มีเป้าหมายมาก่อการร้ายในประเทศไทย ดังนั้น ไม่น่ามีปัญหาอะไร ซึ่งในส่วนการสืบสวนสอบสวนตนมอบหมายให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.ดูแล

เมื่อถามว่าออกหมายจับแล้วจะส่งภาพสเกตช์ให้แก่ตำรวจสากลหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้หน่วยข่าวกรองของต่างชาติรับไปแล้ว

“เชื่อว่า คนร้ายไม่มีเป้าหมายก่อการในประเทศเรา เพราะความสัมพันธ์ของเรากับชาติอาหรับดีมาก ส่วนการจะออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกหรือไม่ทุกอย่างอยู่ที่พยานหลักฐาน อยู่ที่ตัวบุคคลยืนยัน ขณะนี้คงตอบไม่ได้ว่าจะออกหมายจับเพิ่มอีกหรือไม่ หากหลักฐานไปถึงก็ต้องดำเนินการ” ผบ.ตร.กล่าว

ส่วนการที่ต่างชาติยังคงประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังการเดินทางในประเทศไทย ผบ.ตร.กล่าวว่า เป็นสิทธิของประเทศต่างๆ หวั่นเกรงว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นกับเขา จึงมีความรู้สึกวิตกกังวล ซึ่งเป็นเรื่องของแต่ละประเทศที่จะมีความวิตกกังวล โดยคาดว่าอีกไม่กี่วันปัญหานี้น่าจะคลี่คลาย ซึ่งขณะนี้ประเทศต่างๆ ทราบทั้งหมดแล้วว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว


ในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมคดีครอบครองยุทธภัณฑ์ได้ เนื่องจากการออกหมายจับผู้ต้องหาในทุกคดีต้องมีความละเอียดรอบคอบในข้อมูล รวมถึงต้องดูความเรียบร้อย ทั้งกรณีรูปพรรณสัณฐาน เนื่องจากผู้ต้องสงสัยเป็นชาวต่างชาติ และมีหลายชื่อ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานและเร่งรัด เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยให้ได้ในวันนี้

ส่วนศาลจะอนุมัติหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนมั่นใจว่าพยานหลักฐานสามารถเอาผิดได้

ส่วนกรณีที่มีหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวรวมตัวชุมนุมในหลายสถานที่จากกรณีที่สหรัฐอเมริกาได้มีการแจ้งเตือนการก่อการร้ายในประเทศไทยส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า เชื่อว่า ไม่มีผลต่อรูปคดี เนื่องจากพนักงานสอบสวนมีหน้าที่ทำงานตามหลักฐานที่มีและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก พล.ต.ต.อนุชัย ได้เข้าร่วมฟังสรุปผลการติดตามความคืบหน้าของคดีเพิ่มเติมยังห้องประชุมชั้น 5 นานประมาณ 30 นาที พล.ต.ต.อนุชัย พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ให้เดินทางออกจาก บช.ตชด.ไปยังศาลอาญารัชดาฯ เพื่อนำพยานหลักฐานไปขออนุมัติเพื่อออกหมายจับ นายเจมส์ แซมมี่ เปาโล อายุ 40 ปี ชาวเลบานอน เพื่อนร่วมขบวนการกับ นายอาทริส ในข้อหาร่วมมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองเกินกฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ พล.ต.ต.อนุชัย ได้กล่าวก่อนเดินทางไปยังศาลอาญาว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนพบว่ามีหลักฐานแน่นหนาเพียงพอที่จะขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับได้ ซึ่ง จากข้อมูลขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า นายเจมส์ ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ ส่วนจะมีการออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายเจมส์ แซมมี่ เปาโล อายุ 40 ปี สัญชาติเลบานอน ที่พบว่ามีความเชื่อโยงกับนายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ตามความผิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ หลังจากนี้ทางชุดสืบสวนคดีจะเร่งดำเนินติดตามตัวนายเจมส์มาสอบสวนทันที ทั้งการสแกนพื้นที่และตั้งจุดตรวจต่าง ๆ แต่ไม่มั่นใจว่านายเจมส์จะยังคงกบดานอยู่ในประเทศไทยหรือไม่

ศาลอนุมัติหมายจับ "เจมส์ แซมมี่ เปาโล"
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 17.00 น. พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำพยานหลักฐานจำนวน 3 แฟ้มใหญ่ มาเสนอศาลเพื่อพิจารณาอนุมัติออกหมายจับ นาย เจมส์ แซมมี่ เปาโล อายุ 40 ปี ชาวเลบานอล ผู้ต้องหาร่วมกับนายอาทริส ฮุสเซน สัญชาติเลบานอนและสวีเดน ผู้ร่วมขบวนการกลุ่มฮีซบอลเลาะห์ ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ในข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองเกินกฏหมายกำหนด โดยศาลได้สอบถามพนักงานสอบสวนและพิจารณาพยานหลักฐานเป็นคำให้การของพยานหลายปาก โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงอนุมัติให้ออกหมายจับนายเจมส์ แซมมี่ เปาโล เลขที่ 64/2555 ลงวันที่ 19 ม.ค. 2555

จากนั้น พนักงานสอบสวนได้นำหมายจับไปส่งให้พล.ต.อ ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร ในฐานะหัวหน้าพนักงงานสอบสวน และ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อประชุมทีมสืบสวนจับตัวผู้ต้องหาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น