“อุดม โปร่งฟ้า” ทนายส่วนตัว “เสก โลโซ” ฟ้องหมิ่น “กานต์ ศุขพิมาย” อดีตภรรยาร็อกเกอร์ดังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวหา “สูบเลือดสามี” ยันว่าความให้ฟรี ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สิน แถมออกค่ารักษาพยาบาลให้ เพราะสนิทกันมานาน เล็งฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายอีก 20 ล้าน
วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความส่วนตัวของ นายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ นักดนตรีร็อกชื่อดัง ยื่นฟ้อง นางวิภากร หรือ กานต์ ศุขพิมาย อดีตภรรยาของ เสก โลโซ ในความผิดฐานหมิ่นประมาท
โดยโจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2555 จำเลยพิมพ์ข้อความใน www.facebook.com ส่วนตัวของจำเลยว่า “...ขอ เตือนอีกครั้งเราปล่อยเสกให้พวกท่านดูดเลือดเค้าอย่างสบายๆ ไปแล้ว พวกท่านก็ฉุดเค้าไว้ให้อยู่ก็แล้วกัน อย่าปล่อยให้เสกหลุดออกมาหาลูกหาเมียเค้าอีก เพราะเราไม่ต้อนรับพวกท่านทั้งหลาย ถ้าเค้ากลับมาหาลูกเมียอีกครั้ง พวกท่านจะไม่ได้อะไรจากเค้าอีก เพราะเราจะไม่ยอมให้เค้าไปโดนเอาเปรียบแบบนี้อีก และอย่าลืมว่าทรัพย์สินของเค้าลูกทั้ง 3 ของเค้ามีส่วน อย่าทำอะไรให้ผิดมนุษยธรรมมาก เพราะเรามีขีดจำกัด...” “...อยาก รู้นักจิตใจพวกมันทำด้วยอะไรถึงไม่ได้คิดถึงเลือดเนื้อเชื้อไขของเค้าทั้ง สาม พรุ่งนี้จะทำบุญบ้านล้างซวยปัดเป่าพวกเสนียดจัญไร แต่ก็อาจจะแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้มันบ้างสงสัยจะอดอยาก ไม่เคยเห็นใครมีก็เลยละโมบ...” “...กระ เป๋าใส่ บุ๊กแบงก์และสมุดเช็ครวมถึงบัตรเครดิต เอทีเอ็ม และเอกสารทางการเงินต่างๆ ของเสกอยู่ในห้องนอน แต่มีคนซึ่งบอกว่าหวังดีมาละลาบละล้วงขโมยกุญแจห้องแล้วมาหยิบไป อยากรู้นักห่วงเสกหรือห่วงเงินพี่เสก น่าสงสารคนไข้ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่...”
ต่อมาวันที่ 12 ม.ค.55 จำเลยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน มีข้อความว่า “...เพราะ ฉะนั้นพอวันที่ 6 หลังจากที่เสกกลับโรงพยาบาลไปแล้ว กานต์ ได้โทรศัพท์ไปหาทนายความคือคุณอุดม บอกว่า กานต์ขอตรวจสอบทรัพย์สินของเสกว่า ทำไมเสกถึงได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้นัก เพราะตั้งแต่เขาไปบำบัดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.54 เขาก็เอากระเป๋าไปตั้งแต่วันนั้นเลย ก็ไม่มีใครได้ตรวจสอบ ก็เคยโทรศัพท์ไปทวงเขาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.54 ว่าในสิทธิ์ของคนเป็นแม่ขอแค่ดู แต่เขาก็ไม่ยอม วันที่ 6 ม.ค.55 ก็โทรศัพท์ไปอีก เข้าก็บอกกับเราว่าให้ไม่ได้ น้องกานต์อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ เขาบอกอย่างนี้ ฉันเองก็ไม่ได้ทำอะไร ก็เลยโพสต์ข้อความออกมา...” “...เมื่อ วันที่ 5 ม.ค.55 ที่พี่เข้าไป อารมณ์ดีค่ะ คือว่าไม่ว่าจะเขียนฉบับนี้หรือฉบับนี้ เขาก็มีฤทธิ์ของยาอยู่ ฉบับนี้ฤทธิ์ของยาไอซ์แน่นอน แต่ฉบับนี้อาจเป็นฤทธิ์ของยาที่หมอให้...” และ “...พี่ เสกเขาบอกว่ามันมียอดที่เขาเบิกเงินออกไป 2 ล้านบาท แล้วก็ 7 แสนบาท แล้วก็ 2 แสนบาท ซึ่งเขาไม่รู้ว่ายอดเหล่านี้เอาไปจ่ายค่าอะไร เขาก็เลยอยากจะทราบ พี่ก็ไม่รู้จะเคลียร์ให้ได้ยังไง เพราะสมุดบุ๊กแบงก์ก็ไม่ได้อยู่กับพี่ บัญชีรายรับรายจ่ายพี่ก็ไม่ได้ทำอยู่แล้ว ยอดนี้เขาบอกกับกานต์ว่าตอนก่อนเข้าบำบัด...”
ซึ่งข้อความดังกล่าวที่จำเลยเขียนและที่แถลงต่อสื่อมวลชนนั้นไม่เป็นความจริง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เพราะโจทก์ ประกอบวิชาชีพทนายความมา 23 ปี สิ่งสำคัญของการเป็นทนายความ คือ ชื่อเสียง เกียรติยศ ความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ ยึดมั่นมาโดยตลอด การทำหน้าที่ทนายความให้แก่ เสก โลโซ เพราะความสนิทสนมเป็นการส่วนตัว เมื่อได้รับการติดต่อจากเสก จึงมาช่วยเหลือโดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด และไม่เคยมีความสัมพันธ์หรือได้รับเงินจากญาติพี่น้องของ เสก โลโซ และในการทำหน้าที่ทั้งหมดก็ไม่ได้เป็นศัตรูกับจำเลย ปฏิบัติไปตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจาก เสก โลโซ การกระทำของจำเลยทำให้คนทั่วไปเข้าใจ ว่า โจทก์ร่วมกับญาติของ เสก โลโซ ยักยอกเอาทรัพย์สินของ เสก โลโซ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พูดว่า การที่เสก โลโซ ทำหนังสือมอบอำนาจให้แก่โจทก์ หรือ น.ส.ฑยุตา ศุขพิมาย น้องสาวของ เสก โลโซ ให้ดูแลทรัพย์สินนั้น ไม่ได้เป็นการยกทรัพย์สินให้โจทก์หรือ น.ส.ฑยุตา อย่างที่ นางวิภากร กล่าวกับสื่อมวลชน การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.119/2555 พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 5 มี.ค.55 เวลา 09.00 น.เพื่อมีคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ต่อไป
ภายหลัง นายอุดม กล่าวว่า เหตุที่ฟ้อง นางวิภากร ครั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ ชื่อเสียงของตัวเอง เนื่องจากการโพสต์ข้อความ รวมถึงการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น ทำให้คนทั่วไปมองว่าตนหวังเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของ เสก โลโซ ทั้งที่ตนเข้ามาช่วยเหลือให้ เสก โลโซ ในฐานะพี่น้องที่มีความสนิทสนมกัน และไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด หลังจากนี้ ไม่ว่านางวิภากร จะไปออกรายการใด หรือโพสต์ข้อความใด หากปรากฏข้อความที่ทำให้ตนและครอบครัวศุขพิมาย เสื่อมเสียก็พร้อมจะฟ้องดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นร้อยคดีก็พร้อมจะยื่นฟ้อง นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าตนจะยื่นฟ้องนางวิภากร ต่อศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาทด้วย
วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความส่วนตัวของ นายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ นักดนตรีร็อกชื่อดัง ยื่นฟ้อง นางวิภากร หรือ กานต์ ศุขพิมาย อดีตภรรยาของ เสก โลโซ ในความผิดฐานหมิ่นประมาท
โดยโจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2555 จำเลยพิมพ์ข้อความใน www.facebook.com ส่วนตัวของจำเลยว่า “...ขอ เตือนอีกครั้งเราปล่อยเสกให้พวกท่านดูดเลือดเค้าอย่างสบายๆ ไปแล้ว พวกท่านก็ฉุดเค้าไว้ให้อยู่ก็แล้วกัน อย่าปล่อยให้เสกหลุดออกมาหาลูกหาเมียเค้าอีก เพราะเราไม่ต้อนรับพวกท่านทั้งหลาย ถ้าเค้ากลับมาหาลูกเมียอีกครั้ง พวกท่านจะไม่ได้อะไรจากเค้าอีก เพราะเราจะไม่ยอมให้เค้าไปโดนเอาเปรียบแบบนี้อีก และอย่าลืมว่าทรัพย์สินของเค้าลูกทั้ง 3 ของเค้ามีส่วน อย่าทำอะไรให้ผิดมนุษยธรรมมาก เพราะเรามีขีดจำกัด...” “...อยาก รู้นักจิตใจพวกมันทำด้วยอะไรถึงไม่ได้คิดถึงเลือดเนื้อเชื้อไขของเค้าทั้ง สาม พรุ่งนี้จะทำบุญบ้านล้างซวยปัดเป่าพวกเสนียดจัญไร แต่ก็อาจจะแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้มันบ้างสงสัยจะอดอยาก ไม่เคยเห็นใครมีก็เลยละโมบ...” “...กระ เป๋าใส่ บุ๊กแบงก์และสมุดเช็ครวมถึงบัตรเครดิต เอทีเอ็ม และเอกสารทางการเงินต่างๆ ของเสกอยู่ในห้องนอน แต่มีคนซึ่งบอกว่าหวังดีมาละลาบละล้วงขโมยกุญแจห้องแล้วมาหยิบไป อยากรู้นักห่วงเสกหรือห่วงเงินพี่เสก น่าสงสารคนไข้ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่...”
ต่อมาวันที่ 12 ม.ค.55 จำเลยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน มีข้อความว่า “...เพราะ ฉะนั้นพอวันที่ 6 หลังจากที่เสกกลับโรงพยาบาลไปแล้ว กานต์ ได้โทรศัพท์ไปหาทนายความคือคุณอุดม บอกว่า กานต์ขอตรวจสอบทรัพย์สินของเสกว่า ทำไมเสกถึงได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้นัก เพราะตั้งแต่เขาไปบำบัดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.54 เขาก็เอากระเป๋าไปตั้งแต่วันนั้นเลย ก็ไม่มีใครได้ตรวจสอบ ก็เคยโทรศัพท์ไปทวงเขาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.54 ว่าในสิทธิ์ของคนเป็นแม่ขอแค่ดู แต่เขาก็ไม่ยอม วันที่ 6 ม.ค.55 ก็โทรศัพท์ไปอีก เข้าก็บอกกับเราว่าให้ไม่ได้ น้องกานต์อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ เขาบอกอย่างนี้ ฉันเองก็ไม่ได้ทำอะไร ก็เลยโพสต์ข้อความออกมา...” “...เมื่อ วันที่ 5 ม.ค.55 ที่พี่เข้าไป อารมณ์ดีค่ะ คือว่าไม่ว่าจะเขียนฉบับนี้หรือฉบับนี้ เขาก็มีฤทธิ์ของยาอยู่ ฉบับนี้ฤทธิ์ของยาไอซ์แน่นอน แต่ฉบับนี้อาจเป็นฤทธิ์ของยาที่หมอให้...” และ “...พี่ เสกเขาบอกว่ามันมียอดที่เขาเบิกเงินออกไป 2 ล้านบาท แล้วก็ 7 แสนบาท แล้วก็ 2 แสนบาท ซึ่งเขาไม่รู้ว่ายอดเหล่านี้เอาไปจ่ายค่าอะไร เขาก็เลยอยากจะทราบ พี่ก็ไม่รู้จะเคลียร์ให้ได้ยังไง เพราะสมุดบุ๊กแบงก์ก็ไม่ได้อยู่กับพี่ บัญชีรายรับรายจ่ายพี่ก็ไม่ได้ทำอยู่แล้ว ยอดนี้เขาบอกกับกานต์ว่าตอนก่อนเข้าบำบัด...”
ซึ่งข้อความดังกล่าวที่จำเลยเขียนและที่แถลงต่อสื่อมวลชนนั้นไม่เป็นความจริง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เพราะโจทก์ ประกอบวิชาชีพทนายความมา 23 ปี สิ่งสำคัญของการเป็นทนายความ คือ ชื่อเสียง เกียรติยศ ความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ ยึดมั่นมาโดยตลอด การทำหน้าที่ทนายความให้แก่ เสก โลโซ เพราะความสนิทสนมเป็นการส่วนตัว เมื่อได้รับการติดต่อจากเสก จึงมาช่วยเหลือโดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด และไม่เคยมีความสัมพันธ์หรือได้รับเงินจากญาติพี่น้องของ เสก โลโซ และในการทำหน้าที่ทั้งหมดก็ไม่ได้เป็นศัตรูกับจำเลย ปฏิบัติไปตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจาก เสก โลโซ การกระทำของจำเลยทำให้คนทั่วไปเข้าใจ ว่า โจทก์ร่วมกับญาติของ เสก โลโซ ยักยอกเอาทรัพย์สินของ เสก โลโซ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พูดว่า การที่เสก โลโซ ทำหนังสือมอบอำนาจให้แก่โจทก์ หรือ น.ส.ฑยุตา ศุขพิมาย น้องสาวของ เสก โลโซ ให้ดูแลทรัพย์สินนั้น ไม่ได้เป็นการยกทรัพย์สินให้โจทก์หรือ น.ส.ฑยุตา อย่างที่ นางวิภากร กล่าวกับสื่อมวลชน การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.119/2555 พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 5 มี.ค.55 เวลา 09.00 น.เพื่อมีคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ต่อไป
ภายหลัง นายอุดม กล่าวว่า เหตุที่ฟ้อง นางวิภากร ครั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ ชื่อเสียงของตัวเอง เนื่องจากการโพสต์ข้อความ รวมถึงการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น ทำให้คนทั่วไปมองว่าตนหวังเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของ เสก โลโซ ทั้งที่ตนเข้ามาช่วยเหลือให้ เสก โลโซ ในฐานะพี่น้องที่มีความสนิทสนมกัน และไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด หลังจากนี้ ไม่ว่านางวิภากร จะไปออกรายการใด หรือโพสต์ข้อความใด หากปรากฏข้อความที่ทำให้ตนและครอบครัวศุขพิมาย เสื่อมเสียก็พร้อมจะฟ้องดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นร้อยคดีก็พร้อมจะยื่นฟ้อง นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าตนจะยื่นฟ้องนางวิภากร ต่อศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาทด้วย
