xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ย้ำประเทศไทยไร้การก่อการร้าย!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร.
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำอีกครั้ง ประเทศไทยไร้การก่อการร้าย แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้สั่งกำลังเสริมในพื้นที่จุดเสี่ยงแล้ว เชื่อมั่นควบคุมสถานการณ์อยู่ โดยทั้ง บช.น. สันติบาล และ ตม.ต่างทำงานอย่างเต็มความสามารถ เผย ยังไม่มีประเทศไหนขอตัวผู้ต้องหาชาวเลบานอนไปดำเนินคดี ระบุ บางประเทศได้ถอนการแจ้งเตือนแล้ว

วันนี้ (18 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจับกุม นายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน ว่า จากการสอบสวนแน่ชัดว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นเป้าการก่อการร้าย เพราะประเทศเราไม่เป็นคู่กรณีกับใคร มาเอาอุปกรณ์จากประเทศของเราเท่านั้น ซึ่งจากข้อมูลจะนำอุปกรณ์เหล่านี้ส่งต่อไปยังประเทศแถบตะวันออกกลาง ตอนนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล สันติบาล ส่วนข่าวกรอง ต่างได้ประสานข้อมูลและติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งข้อมูลที่ได้ยังเรียบร้อยดี ได้มีการเตรียมพร้อมในการใช้กำลังของหน่วยอรินทราช 26 และนเรศวร 261 พร้อมเครื่องมือพิเศษไว้พร้อมทุกคน เพื่อดูแลในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษต่างๆ การเสริมกำลังก็เพื่อให้ตำรวจพื้นที่เกิดความมั่นใจ ว่า มีหน่วยเสริมที่จะเข้าไปช่วยทันทีหากมีเหตุอะไรเกิดขึ้น

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ส่วนเรื่องให้ประเทศต่างๆ ถอนแจ้งเตือนก็จะเริ่มดำเนินการเป็นระยะ ซึ่งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ และทูตทหาร กำลังดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทราบว่า บางประเทศ 2-3 ประเทศ ก็มีการถอนการแจ้งเตือนแล้ว เรื่องการแจ้งเตือนก็ต้องยอมรับว่า เป็นสิทธิของแต่ละประเทศที่มีข่าว ก็ต้องแจ้งเตือนประชาชนตามระเบียบ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน นายอาทริส และสอบสวนพยานแวดล้อมบริเวณบ้านที่พบระเบิดพบว่า ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา มีคนเข้าออก 3-4 คน แต่ระยะหลังมีเพียง นายอาทริส คนเดียวที่เข้าออก ซึ่งจากข้อมูลต่างๆ เชื่อว่า เพื่อนๆ อีก 3 คนได้ออกจากประเทศไทยไปแล้ว แต่ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนชายตามภาพสเกตช์ก็ติดตามตัวอยู่ ซึ่งเรื่องของการที่เรายังไม่สามารถจับกุมตัวชายคนนี้ได้ไม่น่าจะเกี่ยวกับการถอนหรือไม่ถอนการแจ้งเตือน เรื่องการแจ้งข้อมูลต่างให้ต่างประเทศทราบส่วนหนึ่งทางกองการต่างประเทศตำรวจสากลก็กำลังดำเนินการอยู่ สำหรับบ้านที่ นายอาทริส ระบุว่า มีอีกหลังหนึ่งก็ยังหาไม่พบ ยังไม่มีความคืบหน้า

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจตรา ปรับการดูแลเป็นพิเศษสำหรับโดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มน่าสงสัยบางกลุ่มต้องเข้มในการตรวจตรา ส่วนกลุ่มคนปกติที่ไม่มีปัญหาก็ตรวจตราในระดับปกติที่ทำอยู่

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้ประชาชนวางใจ เพราะตอนนี้จากผลกรสำรวจต่างๆ ประชาชนมีความหวาดวิตก พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าไม่มีเหตุก่อการร้าย ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนก็ให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริง และตรงกันทุกคน ว่า ไม่มีการก่อการร้าย ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่บ้านเมืองเรายังปลอดภัย และเราก็สามารถจับกุมนายอาทริส และสารประกอบระเบิดได้แล้ว และเชื่อว่า การจับกุมนานอาทริส และยึดสารทำระเบิดได้นั้นเป็นความสำเร็จของการทำงาน ทุกฝ่ายพอใจ สร้างความน่าเชื่อถือแต่การที่แต่ละประเทศจะถอนการเตือนภัยหรือไม่นั้นก็เป็นสิทธิของแต่ละประเทศ

เมื่อถามว่า หากมีประเทศปลายทางที่นายอาทริส จะส่งสารทำระเบิดไปต้องการตัวไปดำเนินคดี จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีประเทศไหนประสานขอนายนายอาทริส มา แต่ถ้ามีก็ต้องประสานผ่านอัยการสูงสูงสุดในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งตำรวจก็ต้องร่วมพิจารณาด้วยซึ่งไทยจะส่งตัวให้หรือไม่ให้ก็ได้ อาจจะให้มีการดำเนินคดีในประทศไทยก่อนแล้วค่อยผลักดันออกในภายหลัง

พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวอีกว่า ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชน ช่วยป้องกันภยันตารายในวันตรุษจีน ดังนี้
1.ระมัดระวังอัคคีภัยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการจุดธูปเทียนไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ รวมทั้งการเฝาสิ่งของเซ่นไหว้ ตลอดจนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแก๊สหุงต้ม ต้องมีผู้ควบคุมอย่างใกล้ชิดก่อนออกจากบ้านต้องตรวจตราให้เรียบร้อย
2.ห้ามพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ และหลีกเลี่ยง การจุดดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด วัตถุอันตราย หรือการละเล่นอื่นใดในลักษณะก่อความเดือดร้อนรำคาญ
3.การออกไปทำธุระหรือท่องเที่ยว ไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือของมีค่าหรือวางทรัพย์สินไว้ในรถยนต์ ในลักษณะที่คนร้ยมองเห็นซึ่งถูกโจรกรรมได้ และขอให้ผู้ปกครองกำชับเด็กและเยาวชนระมัดระวังผู้ที่จะมาหลอกลวงในทิศทางมิชอบ หรือไม่ควรเปล่อยให้เที่ยวตามลำพัง กรณีพาเด็กเล็กออกจากบ้าน ขอให้จัดทำบัตรที่มีชื่อเด็ก บิดา มารดา หมายเลขโทรศัพท์ ใส่ไว้ในกางเกง หรือเกระเป๋าเสื้อของเด็กเพื่อสะดวกในการติดตามหรือนำส่งผู้ปกครองกรณีพลัดหลง
4.ในการเดินทาง ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกชนิดใช้ความระมัดระวัง ไม่ควรขับรถในขณะร่างกายอ่อนเพลีย การเสพสุราหรือของมึนเมา และการขับรถเร็ว ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
5.ผู้เดินเท้า ควรใช้ความระมัดระวัง ใช้ทางเท้า ไหล่ทางในการสัญจรการข้ามถนนให้ใช้สะพานลอย ทางข้าม ทางม้าลาย หรือจุดที่มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก
6.สถานที่ตากอากาศ เช่น ชายทะเล อุทยาน น้ำตก หรือแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีประชาชนเป็นจำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตำรวจท้องที่ ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจน้ำ ดูแลให้ความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกทั้งทางบกทางน้ำเป็นพิเศษ
กำลังโหลดความคิดเห็น