รองผบช.น.เผย พนักงานสอบสวนเตรียมส่งหนังสือเชิญ “มาร์ค-เทพเทือก” สอบปากคำคดีช่างภาพญี่ปุ่นเสียชีวิตกลางม็อบแดงอีกครั้ง หลังทั้งสองติดภารกิจขอเลื่อนเข้าให้ข้อมูล พร้อมกำหนดการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนสรุปสำนวนจนถึง 17 ธ.ค.นี้ ย้ำ ได้ส่งสำนวนคดีจากทั้งหมด 16 คดี ที่เกี่ยวข้องไปให้อัยการแล้ว 4 คดี มั่นใจคดีที่เหลือจะเร่งทำให้เสร็จทันระยะเวลาที่กำหนด
วันนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น.ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคดีชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม 2553 เปิดเผยถึงกรณีส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยเชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนในวันนี้ (2 ธ.ค.) นั้น ว่า นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ส่งหนังสือมาขอเลื่อนกำหนดการที่จะเข้าให้ปากคำ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับรายงานจากหัวหน้าพนักงานสอบสวนแล้ว โดย นายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงเหตุผลว่าติดภารกิจสำคัญในการนัดหมายไว้ก่อนแล้ว จึงขอขยายเวลาออกไป ซึ่งเรื่องนี้ทางพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ปรึกษากับพนักงานอัยการ โดยจะมีหนังสือนัดหมายใหม่อีกครั้ง โดยทางพนักงานสอบสวนกำลังหารือกับทางพนักงานอัยการ ในวันและเวลาที่จะนัดมาให้ปากคำต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ขอเลื่อนเวลาในการเข้าพบพนักงานสอบออกไปอีกจะมีผลต่อคดีหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า อย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งต้องให้เรื่องเกิดขึ้นก่อน โดยในเบื้องต้นจากการพูดคุยกับพนักงานอัยการถือว่ายืดระยะเวลาออกไปพอสมควรแล้ว ส่วนการทำคดีขณะนี้ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงในการรวบรวมพยานหลักฐานของทางพนักงานสอบสวนให้มีความชัดเจนรอบด้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการส่งหมายเชิญตัว นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ไปก่อนหน้านี้ แล้วหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า จากการสอบถามทางพนักงานสอบสวน ยืนยันว่า ได้ส่งหมายไปตามระเบียบ ขั้นตอน และวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยส่งหมายไปครั้งเดียวในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเชิญมาเพียงแค่ 2 คนก่อน คือนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ สำหรับคนอื่นยังไม่มีข้อมูล
ส่วนข้อหารือระหว่างพนักงานสอบสวนกับพนักงานอัยการมีความเห็นสอดคล้องกันว่าน่าจะเป็นระยะเวลาในการทำคดีที่เหมาะสมไม่นานเกินไป ต้องให้เวลาทางพนักงานสอบสวนในการที่จะสรุปสำนวนด้วย โดยมีกำหนดการทำงานถึงวันที่ 17 ธ.ค.น่าจะมีเวลาให้ทำงานพอสมควรในการรอการเข้าให้ข้อมูล
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากทั้งหมด 16 คดี ที่เกี่ยวข้องขณะนี้มีการสรุปสำนวนคดีใดออกมาบ้างแล้ว และคดีที่เหลือจะรอจนถึงครบระยะเวลาในการทำคดีทีเดียวหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนไปให้อัยการแล้วจำนวน 4 คดี ส่วนรายละเอียดแต่ละคดีนั้นมีเนื้อหามากพอสมควร ซึ่งคดีที่เหลือคงต้องเร่งทำให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด
“ทั้งนี้ เราได้รับการประสานงานจากทางสถานทูตญี่ปุ่นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับคดีช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้มีการชี้แจงรายละเอียดที่พอจะเปิดเผยที่ไม่กระทบต่อรูปคดีได้ให้ทราบเบื้องต้นแล้ว” พล.ต.ต.อนุชัย กล่าว
วันนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น.ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคดีชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม 2553 เปิดเผยถึงกรณีส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยเชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนในวันนี้ (2 ธ.ค.) นั้น ว่า นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ส่งหนังสือมาขอเลื่อนกำหนดการที่จะเข้าให้ปากคำ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับรายงานจากหัวหน้าพนักงานสอบสวนแล้ว โดย นายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงเหตุผลว่าติดภารกิจสำคัญในการนัดหมายไว้ก่อนแล้ว จึงขอขยายเวลาออกไป ซึ่งเรื่องนี้ทางพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ปรึกษากับพนักงานอัยการ โดยจะมีหนังสือนัดหมายใหม่อีกครั้ง โดยทางพนักงานสอบสวนกำลังหารือกับทางพนักงานอัยการ ในวันและเวลาที่จะนัดมาให้ปากคำต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ขอเลื่อนเวลาในการเข้าพบพนักงานสอบออกไปอีกจะมีผลต่อคดีหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า อย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งต้องให้เรื่องเกิดขึ้นก่อน โดยในเบื้องต้นจากการพูดคุยกับพนักงานอัยการถือว่ายืดระยะเวลาออกไปพอสมควรแล้ว ส่วนการทำคดีขณะนี้ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงในการรวบรวมพยานหลักฐานของทางพนักงานสอบสวนให้มีความชัดเจนรอบด้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการส่งหมายเชิญตัว นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ไปก่อนหน้านี้ แล้วหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า จากการสอบถามทางพนักงานสอบสวน ยืนยันว่า ได้ส่งหมายไปตามระเบียบ ขั้นตอน และวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยส่งหมายไปครั้งเดียวในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเชิญมาเพียงแค่ 2 คนก่อน คือนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ สำหรับคนอื่นยังไม่มีข้อมูล
ส่วนข้อหารือระหว่างพนักงานสอบสวนกับพนักงานอัยการมีความเห็นสอดคล้องกันว่าน่าจะเป็นระยะเวลาในการทำคดีที่เหมาะสมไม่นานเกินไป ต้องให้เวลาทางพนักงานสอบสวนในการที่จะสรุปสำนวนด้วย โดยมีกำหนดการทำงานถึงวันที่ 17 ธ.ค.น่าจะมีเวลาให้ทำงานพอสมควรในการรอการเข้าให้ข้อมูล
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากทั้งหมด 16 คดี ที่เกี่ยวข้องขณะนี้มีการสรุปสำนวนคดีใดออกมาบ้างแล้ว และคดีที่เหลือจะรอจนถึงครบระยะเวลาในการทำคดีทีเดียวหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนไปให้อัยการแล้วจำนวน 4 คดี ส่วนรายละเอียดแต่ละคดีนั้นมีเนื้อหามากพอสมควร ซึ่งคดีที่เหลือคงต้องเร่งทำให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด
“ทั้งนี้ เราได้รับการประสานงานจากทางสถานทูตญี่ปุ่นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับคดีช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้มีการชี้แจงรายละเอียดที่พอจะเปิดเผยที่ไม่กระทบต่อรูปคดีได้ให้ทราบเบื้องต้นแล้ว” พล.ต.ต.อนุชัย กล่าว
