สตม.รวบหนุ่มยุ่นเปิดบริษัทลวงเพื่อนร่วมชาติต่อวีซ่าเสียหายกว่า 40 ล้าน

สตม.ตามรวบหนุ่มใหญ่ชาวญี่ปุ่นเปิดบริษัทลวงเพื่อนร่วมชาติทำวีซ่า ให้คำปรึกษาธุรกิจ มีเหยื่อหลงเชื่อกว่า 46 บริษัท นำเงินไปลงทุนทำธุรกิจอื่นจนขาดทุน แล้วปิดบริษัทหนี มูลค่าเสียหาย 40 ล้าน หนำซ้ำยังเอาเอกสารลูกค้าไปปลอมข้อมูลเบิกเงินจากบัญชีอีก 2 ล้าน

วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม. พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง พ.ต.อ.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบก.สส. แถลงผลการจับกุม นายคาซูโอะ โคบายาชิ อายุ 54 ปี ชาวญี่ปุ่น ที่หลอกลวงชาวญี่ปุ่นที่อาศัยในประเทศไทยด้วยการโฆษณาหาลูกค้าผ่านทางหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นในไทยรับจ้างต่อวีซ่า โดยมีผู้หลงเชื่อจำนวนมากกว่า 46 บริษัท ความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท หลังสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ

พล.ต.ท.วิบูลย์กล่าววว่า ได้รับการประสานจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยให้สืบสวนหาตัวนายคาซูโอะ ที่กระทำผิดหลายข้อหาในไทยโดยการโฆษณาหาลูกค้าผ่านทางหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นในไทย ว่าบริษัทที่ดำเนินการโดยชาวญี่ปุ่นรับจ้างเดินเรื่องต่อวีซ่า ให้คำปรึกษาธุรกิจ และจัดการงบดุลแก่ชาวญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยมีร้านอาหารสัญชาติญี่ปุ่น ย่านสุขุมวิท และทองหล่อ รวมถึงในนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีชาวญี่ปุ่นทำงานอยู่หลงเชื่อและเสียเงินให้กับบริษัทของนายคาซูโอะเป็นจำนวนกว่า 46 บริษัท ความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท ต่อมาได้ปิดบริษัทหลบหนีไปพร้อมเอกสารของผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลายรายถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับภาษีเนื่องจากไม่มีเอกสารไปดำเนินการ จึงรวมตัวกันร้องเรียนเรื่องดังกล่าวผ่านทางสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ทั้งนี้ นายคาซูโอะยังได้ทำการปลอมข้อมูลสวมรอยเป็นนายนากายามา ฮิซาชิ อายุ 60 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเคยเป็นลูกค้าของนายคาซูโอะ แต่เดินทางกลับไปประเทศญี่ปุ่นแล้ว เบิกเงินจากบัญชีธนาคารจำนวนกว่า 2,000,000 บาท

พล.ต.ท.วิบูลย์กล่าววอีกว่า ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เปิดบริษัทดำเนินการด้านวีซ่า ให้คำปรึกษาธุรกิจ ทำงบดุลให้กับบุคคล ร้านอาหาร บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศไทยจริง ต่อมาได้นำเงินไปลงทุนในธุรกิจอื่นแล้วขาดทุน จึงต้องปิดบริษัทแล้วหลบหนีไปพร้อมเอกสารของลูกค้า ต่อมาเห็นว่าเอกสารของลูกค้าสามารถนำไปหาผลประโยชน์ได้ จึงกระทำผิดและถูกแกะรอยจับกุมดังกล่าว เมื่อทราบข่าวการจับกุมนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นลูกค้าของนายคาซูโอะ ได้รวมตัวกันมาชี้ตัวผู้ต้องหาได้ถูกต้อง และมีลูกค้าหลายรายแจ้งว่าผู้ต้องหาได้นำเช็คของบริษัทของตนไปปลอมลายมือชื่อเพื่อสั่งจ่ายเงินด้วย เมื่อตรวจสอบหนังสือเดินทางพบรอยตราประทับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร (วีซ่า) สิ้นสุด จึงดำเนินคดีในข้อหาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย