“เพรียวพันธ์” คิดตื้น! โจรขึ้นบ้าน “สุพจน์” เป็นการปล้นทรัพย์ธรรมดา

ผบ.ตร.เผย “เหลิม” นัดถก ก.ตร.29 พ.ย.นี้ โดยจะพิจารณาขอขยายเวลาแต่งตั้ง รองผบช.-ผบก.ไปก่อน คาดจะแล้วเสร็จก่อนปีใหม่ ขณะที่คดีปล้นบ้านปลัดคมนาคม ทีมสืบได้เร่งไล่ล่า “ไอ้โก้” หัวโจกอยู่ คาด มูลเหตุการปล้นครั้งนี้เป็นการปล้นทรัพย์ธรรมดา

วันนี้ (24 พ.ย.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวันที่ 29 พ.ย.เวลา 15.30 น.โดยมีวาระสำคัญ คือ พิจารณาขอขยายเวลาเรื่องการแต่งตั้ง รองผบช.-ผบก.ไปก่อน โดยมีขั้นตอนที่ต้องตรวจเอกสารให้กับผู้ทรงคุณวุฒิที่ต้องใช้เวลา รวมถึงช่วงนี้ตนมีภารกิจมาก และต้องลงพื้นที่หลายแห่ง จึงทำให้การพิจารณาล่าช้าแต่น่าจะแล้วเสร็จก่อนปีใหม่

ทั้งนี้ จะพิจารณาจากการทำงานเป็นรายบุคคล โดยถือคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นหลัก ส่วนเรื่อง พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณ์กุล รองผบช.ก.ซึ่งยังรอผลสอบเพิ่มเติมจากกองวินัยส่งเรื่องมาก่อน จึงจะสามารถตัดสินได้ว่ามีผลอย่างไร แต่ถ้าวันเวลาที่ พล.ต.ต.ศรีวราห์ ลงไปปฏิบัติหน้าที่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง และถ้ากองวินัยสรุปผลมาว่าผิด การแต่งตั้งตำแหน่ง ผบช.ภ.1 คงจะเสร็จสิ้น ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งผลการสอบเพิ่มเติมจากกองวินัยอยู่ โดยคาดว่าน่าจะทันการประชุม ก.ตร.วันที่ 29 พ.ย.

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ากรณีการปล้นบ้านปลัดกระทรวงคมนาคมคืบหน้าอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ขาดแค่ นายวีระศักดิ์ หรือ โก้ เชื่อลี ที่กำลังหลบหนีอยู่ ส่วนนายชยธัช หรือ เอก จันนะชัย ตัวละครสำคัญได้จับกุมแล้ว พร้อมสอบสวนเชื่อมโยงกลุ่มบุคคลที่ปล้นทรัพย์ แต่นายเอกให้การไม่หมดว่าใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งตอนแรกที่นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม แจ้งว่าเงินหาย 5 ล้านบาท แต่ขณะนี้ทางผู้ต้องหากลับให้การไปอีกอย่างนั้น ถือเป็นการแจ้งความเท็จหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ไปอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ถ้าแจ้งความเท็จก็จะดำเนินการชั้นสอบสวน ซึ่งมีนโยบายกำชับเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา คาดว่า มูลเหตุการปล้นครั้งนี้เป็นการปล้นทรัพย์ธรรมดา

อย่างไรก็ตามสำหรับคดีนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ตอบกระทู้ถามสดในสภาว่าไม่ใช่การปล้นธรรมดา ไม่ได้ประทุษร้าย ไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ แต่มีสิ่งซ่อนเร้นในหัวใจคือ การหักกันไปมา ยืนยันว่า จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่