ก.ตร.เคาะโผนายพล-โยกตำรวจลงงานเหมาะสม!

"เหลิม" นั่งหัวโต๊ะ ประชุม ก.ตร.พิจารณาการแต่งตั้งนายพล ตร.ระดับ ผบช.-รอง ผบ.ตร. บ่ายนี้

วันนี้ (25 ต.ค.) เวลา 14.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะกรรมการ ก.ตร. เพื่อพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2554 ระดับ ผบช.-รอง ผบ.ตร. โดยจะมีการพิจารณาแต่งตั้งตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.ทดแทนรอง ผบ.ตร.เกษียณอายุ จำนวน 4 ตำแหน่ง, ที่ปรึกษา (สบ 10) จำนวน 4 ตำแหน่ง หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ จำนวน 1 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร.จำนวน 9 ตำแหน่ง รวม 18 ตำแหน่ง รวมถึงการพิจารณาโยกย้ายข้าราชการตำรวจในตำแหน่งที่เหมาะสม ตามที่ ก.ตร.เห็นสมควร หลังจากเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมาคณะกรรมการกลั่นกรองข้าราชการตำรวจที่มีความเหมาะสมได้พิจารณาคุณสมบัติผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งไม่ขัดต่อกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว รวม 33 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 09.00 น. บอร์ดกลั่นกรองที่มีประธาน ก.พ.เป็นประธาน ได้ประชุมกันอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าอาจมีการปรับแก้ 2-3 ตำแหน่ง จากเดิมทีที่บอร์ดกลั่นกรองได้พิจารณาเสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ตำแหน่งที่จะคาดว่าจะปรับแก้ ได้แก่ ผบช. ประจำทำหน้าที่ประสานงานนายกรัฐมนตรี ซึ่งเดิมทีเป็นชื่อ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภาค 1 มาดำรงตำแหน่งนี้ แต่มีข่าวว่าจะต้องปรับใหม่ เพราะต้องเป็นบุคคลที่นายกฯ วางตัวไว้แล้ว เนื่องจากต้องทำงานติดตามนายกฯโดยตรง คาดว่าบอร์ดจะเปลี่ยนแปลงให้ พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ รอง ผบช.ก.มาดำรงตำแหน่งนี้แทน

ส่วน พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ซึ่งได้รับการวางตัวเป็น ผบช.ภาค 1 แต่ติดปัญหาว่าก.ตร.เคยมีมติแต่งตั้ง พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ให้ดำรงตำแหน่งนี้ ต่อมามีการร้องเรียนเรื่องการนับวันทวีคูณอายุราชการ การแต่งตั้ง พล.ต.ต.ศรีวราห์จึงชะงัก บอร์ดกลั่นกรองจึงวางตัว พล.ต.ต.คำรณวิทย์ไปขึ้น ผบช.ประสานงานนายกฯ แล้ว มารักษาการ ผบช.ภาค 1 แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโผมีชื่อ พล.ต.ต.นเรศ มาแทนเช่นนี้ ทำให้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ต้องไปลุ้นชิงเก้าอี้ผบช.ภาค 1 โดยตรง จนกว่าจะมีข้อสรุปกรณี พล.ต.ต.ศรีวราห์เสร็จสิ้น นอกจากนี้ อาจมีการปรับแก้โผ สลับ พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร จาก ผบช.ศึกษา กับ พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภาค 8

ส่วนรายชื่ออื่นๆ ยังเป็นไปตามโผเดิมที่ผ่านการพิจารณาของบอร์ดกลั่นกรองเมื่อวันที่ 21 ต.ค. มีรายชื่อน่าสนใจดังนี้ ตำแหน่งรอง ผบ.ตร. แต่งตั้ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. เข้าตำแหน่งรอง ผบ.ตร.เต็มตัว

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ได้คาดว่าได้เลื่อนขึ้น ประกอบด้วย พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.จิโรจน์ ไชยชิต เป็นที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา เป็นที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.อัมรินทร์ อัครวงศ์ เป็นที่ปรึกษา (สบ 10)

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ว่าง 9 ตำแหน่ง คาดว่าผู้ได้รับแต่งตั้ง ประกอบด้วย พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ จตร. (สบ 8) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช. สพฐ. พล.ต.ท.อุดม รักศีลธรรม ผบช.สตส. พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ ผบช.ภาค 6 พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภาค 2 พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต ผบช.ตชด. และพล.ต.ท.สมเดช ขาวขำ ผบช. สทส.

สำหรับ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม จตร. (สบ 8) แม้จะมีอาวุโสสูงสุด แต่ติดปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับซาอุฯ เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี นักธุรกิจเชื้อพระวงศ์ซาอุฯ เมื่อปี 2533 จึงไม่มีชื่อขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.

ขณะที่ ผบช.ว่าง 14 ที่นั่ง รายชื่อสำคัญ ได้แก่ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. เป็นผบช.ภาค 9 โดยพล.ต.ต.วินัย ทองสอง รอง ผบช.ก. ขยับขึ้นเป็นผบช.น.แทน พล.ต.ต. ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. เป็นผบช.ภาค 2 พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. เป็นผบช.ภาค 3 โยก พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภาค 3 เข้ามาเป็น ผบช.ประจำ ตร. พล.ต.ต. สุเทพ เดชรักษา รอง ผบช.ก. เป็น ผบช.ภาค 5 โยก พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภาค 5 มาเป็นจเรตำรวจ พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ รอง ผบช.ภาค 1 เป็น ผบช.ภาค 6 พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. เป็นผบช.ภาค 7 พล.ต.ท.ธนากร ศิริอัฐ ผบช.สงป. เป็น ผบช. สันติบาล พล.ต.ท.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ จเรตำรวจ เป็น ผบช.สพฐ. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา จเรตำรวจ เป็น ผบช.ปส.