xs
xsm
sm
md
lg

“ปัจจุบัน-อดีต” ตัวตน.. “ฉะเหลิม!”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
00...“น่าอาย น่ารังเกียจ กับพฤติกรรมนักการเมืองคนนี้จริงๆ กร่าง กร้าว ไร้สาระ ทำไมต้องขู่ให้เคเบิลทีวีนำคำถามนักข่าวไปเผยแพร่ คิดหรือว่าเสื้อแดงที่บ้าไม่เลิกจะออกมาช่วยด่านักข่าว อย่ารังแกสุภาพสตรี .. คุณสมจิตรสู้ๆ ช่องเจ็ดสู้ๆ นักข่าวใจถึงพึ่งได้หายากในยุคนี้ คุณสมจิตรสู้ๆๆๆๆๆ จากคนตามข่าว”

“คนคนนี้มันจัดเข้าข่าย “แมลงป่อง” จริงๆ ชูแต่หางเองอ้า อวดอ้างฤทธี ชอบคุยโวว่าจบดอกเตอร์ คนที่เขาเรียนปริญญาเอกด้วยความสามารถตัวเอง ส่วนใหญ่จะไม่มาคุยโม้โอ้อวดหรอก พวกที่โวส่วนใหญ่คือพวกที่กลวงข้างใน แต่ต้องโชว์พาวกลบเกลื่อน”

“ทักกี้หลอกใช้เป็ดเหลิม ด้วยเงินกี่หลักนี่...วัดกันไป รอดไปก็ได้ดี ...แต่ตำแหน่งนายก(ในฝัน)ของตระกูลอยู่บำรุง นี่ ตั้งใจเลยนะ...คนไทย”

“คนคนนี้ไม่เคยมีประโยชน์ต่อประเทศชาติเลย
ม๊อบเผาเมือง ... หายหัว กลัวโดนหางเลข
เลือกตั้งหายหัว... พูดอะไรไว้หากลูกไม่ได้ จะไม่เป็น รมต .. ลืม
น้ำท่วม....ไม่เคยออกมาช่วยเหลือ ปชช เลย ...ช่วยพ่อมรึงอย่างเดียว
มรึงไม่เคยมีประโยขน์เลยวะไอ้เหลิม มรึงก็เหมือน ริ้น ไร ที่เกาะกินเลือด ไปวันๆ มีแต่เสือมวะ
มรึงก็ควายแดงโง่ๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น"

“ไอ๊ปื้ดฆ่าคนตายยังไม่ติดคุก นับประสาอะไรกับนักโทษคดีทุจริตโทษสองปีจิบๆ 555 จาก ไอ้ปื้ด”

“อ่านแล้วนึกคำด่าเเรงๆ ไม่ออกเลย เลวจริงๆ ก็รู็อยู่แท้ๆ ว่าผิด ทำไมยังหน้าด้านได้ถึงขนาดนี้นะ พูดเรื่องเลวๆ ได้อย่างหน้าตาเฉย แล้วยังมีหน้าไปขุ่มขู่คนอื่นอีก สันดาน”

“ไอ้ปริญญาเอกที่ไปซื้อมาน่ะมันไม่ได้แสดงว่าคุณมีความชำนาช์พิเศษทางด้านนั้นหรอก..การที่ออกมาพูดโดยให้เหตุผลแบบข้างๆ คูๆ และเข้าข้างตัวเองแบบนี้...มันแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของคนบ้าอำนาจไม่สนใจใครหลังการเลือกตั้ง...อย่าลืมว่าประชาชนเค้าเลือกมาเพื่อชาติไม่ใช่เพื่อคนคนเดียว...จากควายแดงมีอำนาจ”

00...นั่นคือส่วนหนึ่งจากเสียงของประชาชนผู้รักความเป็นธรรม ที่ได้ฝากถึง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ “เอเอสทีวี ผู้จัดการออนไลน์” ได้นำเสนอหัวข้อข่าว.. .“เหลิม” เดือดดวลฝีปากนักข่าว โดนจี้ออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษเพื่อ “แม้ว” เมินม็อบต้าน...

โดยหลังจาก “เป็ดเหลิม” ถูกถามจี้จุดเกี่ยวกับการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ให้ “พ่อแม้ว” ก็ถึงกับออกอาการเกรี้ยวกราด ตอบคำถามแบบนักเลงโต อาทิ...

“ยังไม่ถึงเวลาแม่คุณทูนหัว”
“ผมไม่ตอบ เพราะหากยืนสัมภาษณ์ต่อไป คุณสมจิตร (น.ส.สมจิตร นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ซึ่งเป็นผู้ถาม) อาจจะเป็นผู้ที่ติดคุก”
“คุณสมจิตรเป็นนักข่าวมานาน ผมไม่อยากต่อว่า อะไรที่มันเปิดไม่ได้ ผมก็ยังไม่เปิด คุณถามผมไม่จนหรอก คำถามนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าถาม รู้สึกว่าคุณกล้าจริงๆ เลย”
“แล้วคุณจะไปพาดพิงอะไรเรื่องครอบครัวคนอื่น ซึ่งผมคงตอบคำถามแทนไม่ได้ มีเคเบิลทีวีช่องไหนขอให้นำคำพูดของคุณสมจิตรไปออกทุกคำพูดหน่อย”

หากถามว่า “เฉลิม อยู่บำรุง” ทำไมต้องถึงกับอาการ “ของขึ้น” หลังจากสื่อถามถึงเรื่อง “ทักษิณ” จะเป็นเพราะสันดานเดิมหรือไม่ เรื่องนี้ ประชาชนผู้ติดตามชีวิตการเมืองของนักเลงโตฝั่งธนฯ ผู้นี้ย่อมรู้ดี

แต่สำหรับ “เฉลิม กับ ทักษิณ” เขาเคยให้สัญญาอะไรต่อกันหรือไม่ “เฉลิม กับ ทักษิณ” เท่านั้นที่รู้ดีที่สุด ประกอบกับครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2553 เฉลิมเขาได้ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ 6 เดือน เพื่อทำเรื่องนิรโทษฯ พาอดีตนายกฯ ทักษิณ กลับบ้าน โดยมีเนื้อหาว่า....

“หลังการเลือกตั้งทั่วไป หากพรรคเพื่อไทยชนะได้เสียงเป็นอันดับ 1 จะประสานนายบรรหาร ศิลปอาชา เพื่อขอให้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล 2 พรรค และหากพรรคเพื่อไทย ไว้วางใจตน ก็จะไปชวนนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ให้เข้ามาร่วมมือกันอีก แต่ถ้าแพ้พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไม่หน้าด้านไปตั้งรัฐบาลแข่งแน่นอน อย่างไรก็ตาม หากชนะเลือกตั้งแล้วไม่มีใครเป็นนายกฯ ตนก็พร้อมจะเป็นนายกฯ แค่เพียง 6 เดือน เพื่อทำเรื่องนิรโทษกรรมพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไทย แต่หากไม่ได้เป็นนายกฯ ก็จะนั่งเป็นรองนายกฯ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย”

00...การกลับสู่อำนาจของ “เฉลิม อยู่บำรุง” เขาจะไปถึงฝั่งฝันได้เป็นนายกรัฐมนตรีก่อนตายหรือไม่?คงต้องขึ้นอยู่กับ บุญและวาสนา แต่สำหรับตัวตนของเขา อดีตครั้งหนึ่งเขาก็เคยมีปากเสียงกับนักข่าวมาแล้ว โดยที่ครั้งนั้นแตกต่างจากครั้งนี้ คือ เขาทำเพื่อปกป้องลูกรัก แต่ครั้งนี้ ทำเพื่อปกป้องพ่อแม้ว ซึ่งเป็นคนชุบชีวิตของเขาให้ขึ้นมาเดินกร่างบนเส้นทางถนนการเมืองอีกครั้ง

อดีตครั้งหนึ่ง ยังไม่นานเท่าไหร่?..“วันที่ 12 ตุลาคม 2543” โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง ลูกชายของ ร.ต.อ.เฉลิม ถูกกล่าวหาว่าก่อเรื่องทะเลาะวิวาท และต้องขึ้นโรงพัก สน.ทองหล่อ เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม ไปที่โรงพัก เพื่อช่วยลูกชาย ได้แสดงความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยกล่าวว่า “สน.ทองหล่อ วันนี้บัดซบ” หลังจากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าว นสพ.เดลินิวส์ ถามว่าเรื่องนี้นายวันเฉลิม ลูกชายอีกคนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมได้แสดงอาการฉุนเฉียว และด่าผู้สื่อข่าวด้วยคำหยาบคาย เช่น “ทุเรศ” “ทะลึ่ง” “ชั่ว” รวมทั้งพูดถึงเจ้าของ นสพ.เดลินิวส์ โดยมีคำว่า “ไอ้” นำหน้า (มีหลักฐานเทปเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2543 เป็นเครื่องยืนยัน)

ท้ายสุด เหตุการณ์ครั้งนี้ และเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้สะท้อนตัวตนของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้ที่ชอบคุยข่มคนอื่นว่าตัวเองเป็นด็อกเตอร์ด้านกฎหมาย แต่แท้ที่จริงแล้วตนเองเป็นคนอย่างไร ประชาชนย่อมอยู่รู้ดีที่สุด!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น