โฆษกศาลแจงต้องฟ้องผู้ต้องหาก่อนครบฝากขังอ้างน้ำท่วมไม่ได้

โฆษกศาลยุติธรรม ยันตำรวจ-อัยการต้องฟ้องผู้ต้องหาก่อนครบกำหนดฝากขังหากฟ้องไม่ทันต้องปล่อยตัวไปก่อนอ้างเหตุน้ำท่วมไม่ได้

วันนี้ ( 11 พ.ย.) นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีน้ำท่วมขังทั่วไปในเขตกรุงเทพฯ ทำให้ศาลหลายแห่งได้รับผลกระทบ นายมนตรี ยอดปัญญา ประธานศาลฎีกา จึงมีประกาศให้วันที่ 14-18 พ.ย.54 เป็นวันหยุดราชการ ของศาลยุติธรรมบริเวณถนนรัชดาภิเษก ศาลยุติธรรมบริเวณศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะ ศาลจังหวัดตลิ่งชัน สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 1 ศาลยุติธรรมในเขตจังหวัดปทุมธานี สำนักงานศาลยุติธรรม ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลแขวงดุสิต ศาลยุติธรรมในเขตจังหวัดนนทบุรี ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญาธนบุรี และศาลแขวงธนบุรี อย่างไรก็ดีศาลในเขตน้ำท่วมดังกล่าวยังคงให้บริการในด้านฝากขังผู้ต้องหา ออกหมายหมายค้น หมายจับตามปกติ เนื่องจากในการฝากขังผู้ต้องหานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจคุมตัวผู้ต้องหาไว้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง ศาลจึงยังคงให้บริการในส่วนงานฝากขังไว้ ในภาวะน้ำท่วมเช่นนี้

โฆษกศาลยุติธรรมกาล่าวว่า หากพนักงานสอบสวนไม่สามารถเดินทางไปศาลในเขตน้ำท่วมได้ ทางศาลจะมีการแจ้งนัดหมายให้ไปยื่นคำร้องฝากขัง ที่ศาลใกล้เคียงที่เดินทางสะดวกรวมทั้งยืดหยุ่นเรื่องเวลาถือเป็นการอะลุ่มอล่วยในภาวะน้ำท่วม ส่วนเรื่องการยื่นฟ้องผู้ต้องที่ถูกขังในเรือนจำนั้น พนักงานอัยการสามารถยื่นฟ้องได้ โดยไม่จำเป็นต้องนำตัวผู้ต้องหามาจากเรือนจำ โดยศาลจะกำหนดวันสอบคำให้การจำเลยในภายหลัง ส่วนการณีที่ครบกำหนดผลัดฟ้องฝากขังครั้งสุดท้าย พนักงานสอบสวนและอัยการไม่สามารถขยายเวลาได้ เนื่องจากกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่า หากยื่นฟ้องไม่ทันกำหนดฝากขังผลัดครั้งสุดท้าย จะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาไป แต่สามารถจับกุมและดำเนินการฟ้องใหม่ได้ ทั้งนี้ไม่สามารถอ้างเหตุน้ำท่วมได้ เพราะจะเป็นการริดรอนสิทธิของผู้ต้องหาฉะนั้นพนักงานสอบสวนและอัยการต้องเร่งรัดยื่นฟ้องผู้ต้องหาให้ทันกำหนด