“เพรียวพันธ์” ควงแขน “วินัย ทองสอง” นำทีมเจ้าหน้าที่เดินตรวจจุดน้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมพื้นที่รอบสนามหลวง ถนนพระอาทิตย์ พร้อมประสาน กทม.เร่งใช้การตีไม้รอบกำแพงป้องกันน้ำทะลักหากน้ำลด ขณะที่นครบาลส่งกำลังออกลาดตระเวนตรวจตราบ้านเรือนประชาชน ป้องกันคนร้ายลักทรัพย์ พร้อมแนะประชาชนหนีน้ำไม่ควรนำทรัพย์สินติดตัวจำนวนมาก ควรฝากธนาคาร หรือบ้านญาติสนิทไว้เพื่อความปลอดภัย
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บริเวณถนนพระอาทิตย์ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม เดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณด้านหลังบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี หลังจากแนวพนังกั้นน้ำได้พังทลายลงมาทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อเข้าท่วมสถานีและบริเวณดังกล่าว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่พังลงมาเบื้องต้น ก่อนจะประสานให้ทาง กทม.เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง จากนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์และคณะได้เดินทางไปตรวจสอบระดับน้ำล้นเข้าท่วมถนนรอบสนามหลวง ด้านหน้าศาลฎีกา และภายในวัดพระแก้ว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงวันนี้จนเอ่อล้นเข้าท่วมทั้งถนนพระอาทิตย์ และถนนพระสุเมรุ ส่วนแนวพนังกั้นน้ำด้านหลังสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ได้แตกออกเป็นแนวยาวประมาณ 50 ซม. เป็นเหตุให้น้ำทะลักเข้าท่วมภายในสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว จึงต้องรอให้ระดับน้ำลดลง ก่อนจะให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานกับทางทหาร และกทม.เข้ามาซ่อมแซมอีกครั้ง
ด้าน พล.ต.ต.วินัยกล่าวว่า ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจวันละ 200 นาย ให้เตรียมพร้อมไว้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนหากมีการอพยพในภาวะฉุกเฉิน และคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และแนะนำประชาชนในการใช้เส้นทางว่าบริเวณใดสามารถผ่านได้ หรือไม่ได้ พร้อมส่งตำรวจนอกเครื่องแบบลงพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สิน บ้านเรือนประชาชนที่อพยพหนีน้ำออกมา รวมทั้งสถานที่ประชาชนนำรถไปจอดหนีน้ำ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. ที่บริเวณถนนพระอาทิตย์ หน้าสถานีเอเอสทีวี เกิดคันกั้นน้ำที่เจ้าหน้าที่ กทม.นำมาวางทำกำแพงไว้ยึดด้วยไม้อย่างแน่นหนา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือที่จะไหลเข้าสมทบกับน้ำทะเลหนุน เกิดต้านแรงดันน้ำไม่ไหวได้พังลงมา ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมถนนและชุมชนตรอกไก่แจ้ ชาวบ้านตื่นตระหนกเร่งเอาถุงทรายที่ล้อมอยู่ด้านนอกสถานีเอเอสทีวีมากั้นเพื่อไม่ให้ไหลเข้าไปในชุมชน เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ทางนครบาลได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราพื้นที่บ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วม เพื่อป้องกันมิจฉาชีพไม่ให้ลักทรัพย์ซ้ำเติมประชาชนที่กำลังประสบภัย ตลอดจนตระเวนตรวจตามพื้นที่สูงที่ประชาชนนำรถมาจอดหนีน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายทุบรถ ลักขโมยรถ
อย่างไรก็ตาม ขอควรปฏิบัติที่ประชาชนต้องป้องกันเหตุร้าย และอาชญากรรม ในกรณีทิ้งบ้านพัก 1.ควรตรวจอุปกรณ์ไฟฟ้า ตัดกระแสไฟ 2.ควรตรวจความแน่นหนาประตูบ้าน 3.เตรียมอุปกรณ์สื่อสารให้พร้อม 4.ย้ายสิ่งของไว้ในที่เหมาะสม 5.เตรียมสำรองอาหาร ยารักษาโรค 6.เก็บทรัพย์สินในที่ปลอดภัย ฝากธนาคาร หรือบ้านญาติสนิทไว้ไม่ควรนำติดตัวจำนวนมากจะเป็นอันตราย 7.แสวงหาเพื่อนบ้านเพื่อหาข้อมูลข่าวสาร
“มิจฉาชีพที่ออกลักทรัพย์ตามบ้านเรือนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ถือว่าเป็นพวกชอบซ้ำเติมประชาชนที่ต้องเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ พวกไปขโมยของเป็นพวกชั่วร้าย เป็นพวกที่มาซ้ำเติมประชาชน” พล.ต.ต.อำนวยกล่าว
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บริเวณถนนพระอาทิตย์ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม เดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณด้านหลังบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี หลังจากแนวพนังกั้นน้ำได้พังทลายลงมาทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อเข้าท่วมสถานีและบริเวณดังกล่าว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่พังลงมาเบื้องต้น ก่อนจะประสานให้ทาง กทม.เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง จากนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์และคณะได้เดินทางไปตรวจสอบระดับน้ำล้นเข้าท่วมถนนรอบสนามหลวง ด้านหน้าศาลฎีกา และภายในวัดพระแก้ว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงวันนี้จนเอ่อล้นเข้าท่วมทั้งถนนพระอาทิตย์ และถนนพระสุเมรุ ส่วนแนวพนังกั้นน้ำด้านหลังสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ได้แตกออกเป็นแนวยาวประมาณ 50 ซม. เป็นเหตุให้น้ำทะลักเข้าท่วมภายในสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว จึงต้องรอให้ระดับน้ำลดลง ก่อนจะให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานกับทางทหาร และกทม.เข้ามาซ่อมแซมอีกครั้ง
ด้าน พล.ต.ต.วินัยกล่าวว่า ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจวันละ 200 นาย ให้เตรียมพร้อมไว้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนหากมีการอพยพในภาวะฉุกเฉิน และคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และแนะนำประชาชนในการใช้เส้นทางว่าบริเวณใดสามารถผ่านได้ หรือไม่ได้ พร้อมส่งตำรวจนอกเครื่องแบบลงพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สิน บ้านเรือนประชาชนที่อพยพหนีน้ำออกมา รวมทั้งสถานที่ประชาชนนำรถไปจอดหนีน้ำ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. ที่บริเวณถนนพระอาทิตย์ หน้าสถานีเอเอสทีวี เกิดคันกั้นน้ำที่เจ้าหน้าที่ กทม.นำมาวางทำกำแพงไว้ยึดด้วยไม้อย่างแน่นหนา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือที่จะไหลเข้าสมทบกับน้ำทะเลหนุน เกิดต้านแรงดันน้ำไม่ไหวได้พังลงมา ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมถนนและชุมชนตรอกไก่แจ้ ชาวบ้านตื่นตระหนกเร่งเอาถุงทรายที่ล้อมอยู่ด้านนอกสถานีเอเอสทีวีมากั้นเพื่อไม่ให้ไหลเข้าไปในชุมชน เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ทางนครบาลได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราพื้นที่บ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วม เพื่อป้องกันมิจฉาชีพไม่ให้ลักทรัพย์ซ้ำเติมประชาชนที่กำลังประสบภัย ตลอดจนตระเวนตรวจตามพื้นที่สูงที่ประชาชนนำรถมาจอดหนีน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายทุบรถ ลักขโมยรถ
อย่างไรก็ตาม ขอควรปฏิบัติที่ประชาชนต้องป้องกันเหตุร้าย และอาชญากรรม ในกรณีทิ้งบ้านพัก 1.ควรตรวจอุปกรณ์ไฟฟ้า ตัดกระแสไฟ 2.ควรตรวจความแน่นหนาประตูบ้าน 3.เตรียมอุปกรณ์สื่อสารให้พร้อม 4.ย้ายสิ่งของไว้ในที่เหมาะสม 5.เตรียมสำรองอาหาร ยารักษาโรค 6.เก็บทรัพย์สินในที่ปลอดภัย ฝากธนาคาร หรือบ้านญาติสนิทไว้ไม่ควรนำติดตัวจำนวนมากจะเป็นอันตราย 7.แสวงหาเพื่อนบ้านเพื่อหาข้อมูลข่าวสาร
“มิจฉาชีพที่ออกลักทรัพย์ตามบ้านเรือนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ถือว่าเป็นพวกชอบซ้ำเติมประชาชนที่ต้องเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ พวกไปขโมยของเป็นพวกชั่วร้าย เป็นพวกที่มาซ้ำเติมประชาชน” พล.ต.ต.อำนวยกล่าว