ตำรวจท่าข้ามจับนักวิ่งราวกระเป๋ามืออาชีพ ก่อเหตุมาร้อยกว่าครั้ง ทั้งที่มีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง รับสารภาพ เลือกเหยื่อหญิงสาวและเวลาเช้าก่อเหตุ ส่วนเงินที่ได้มานำไปใช้จ่ายส่วนตัว
วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ สน.ท่าข้าม พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุคลเดช ตันสกุล ผกก.สน.ท่าข้าม ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวินัย หรืออ้วน สมัยกลาง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 ม.7 ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีแดง-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ซึ่งเป็นพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ กระเป๋าถือและกระเป๋าสตางค์ยี่ห้อต่างๆ กว่า 100 ใบ บัตรประชาชน 64 ใบ บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิตธนาคารต่างๆ กว่า 100 ใบ ซึ่งทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของผู้เสียหาย โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนเลียบทางด่วนท่าข้าม-ทุ่งครุ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. เมื่อเวลา 07.40 น.วันที่ 17 ต.ค. 2554
พ.ต.อ.ทักษิณกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 17 ต.ค. 2554 ร.ต.ท.ขจร ธูปประกายศรี รอง สว.สส.สน.ท่าข้าม พร้อมพวกได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เหตุเกิดบริเวณภายในซอยข้างห้างเทสโก้โลตัส สาขามพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงได้เข้าสกัดจับนายวินัยไว้ได้พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ กระเป๋าผ้าสีน้ำเงินภายในมีเสื้อผ้า กระเป๋าสตางค์สีฟ้าซึ่งภายในมีเงินสดจำนวน 240 บาท จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นห้องเช่าไม่มีเลขที่ย่านพุทธบูชา ตรวจค้นภายในตู้เสื้อผ้าพบกระเป๋าใบใหญ่ภายในมีกระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ บัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิตของผู้เสียหายจำนวนมาก ทั้งนี้เชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายนี้กว่า 100 ราย ซึ่งหากผู้ใดคิดว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายนี้ สามารถติดต่อขอดูของกลางได้ที่ สน.ท่าข้าม
จากการสอบสวนนายวินัยให้การว่า ตนเองมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่วินปากซอยประชาอุทิศ 81 แต่เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายเพราะตนยังมีลูกอีก 2 คนต้องดูแล จึงได้ตระเวนขับรถจักยานยนต์ออกวิ่งราวทรัพย์ประชาชนย่านพระราม 2 โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิง และจะเลือกก่อเหตุในช่วงเวลา 07.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนออกไปทำงาน โดยทำมาแล้วเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี ส่วนเงินที่ได้มาจะนำไปใช้จ่ายส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวได้มีผู้เสียหายจำนวนกว่า 20 ราย เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา พร้อมตรวจสอบของกลาง ทั้งนี้ หากผู้ใดตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายนี้สามารถติดต่อขอดูของกลางได้ที่ สน.ท่าข้าม