ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มแดนจิงโจ้ฉกแหวนเพชรในร้านทองวิ่งหนี โชคดีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ ตร.พัทยา ใช้เป็นข้อมูลตามตะครุบตัวได้ขณะเดินอยู่ในซอย
วันนี้ (29 ก.ย.) กำลังตำรวจจำนวนหนึ่งเข้าทำการควบคุมตัว นายจัสติน วีดา (Mr.Justin Vida) อายุ 34 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้างทองดารณี 1 เลขที่ 65/5 ถ.พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุชิงแหวนเพชรทองคำขาว 1 วง ราคาประมาณ 18,500 บาท ในร้านดังกล่าวแล้ววิ่งหลบหนีไป
นายปีติพงษ์ ตันติชัยรัตนกูล อายุ 26 ปี ลูกชายเจ้าของร้าน ให้การว่า นายจัสติน ได้มาที่ร้านแล้วขอดูแหวนเพชรทองคำขาว โดยอ้างว่า จะซื้อไปหมั้นแฟนสาวชาวไทย จากนั้นก็ออกจากร้านไป แต่แล้ว นายจัสติน ก็เดินทางกลับมาที่ร้านอีกครั้ง พร้อมกับขอดูแหวนวงเดิม แต่เมื่อเผลอ นายจัสติน กลับขโมยแหวนเพชรแล้ววิ่งหนีออกจากร้านไป จึงได้นำหลักฐานภาพใบหน้าคนร้ายจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ดังกล่าว
ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ภายหลังผู้เสียหายนำภาพใบหน้าของคนร้ายมาให้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกตระเวนหาข่าวกระทั่งไปพบนายจัสติน กำลังเดินอยู่ในซอยบัวขาว ย่านพัทยาใต้ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมกับทำการตรวจค้น และพบของกลางซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวา
นายจัสติน ให้การรับสารภาพว่า ได้ขโมยแหวนเพชรดังกล่าวมาจากร้านที่เกิดเหตุจริง และกำลังจะนำไปขาย ส่วนสาเหตุเป็นเพราะไม่มีเงินใช้จ่ายประจำวัน เนื่องจากแฟนสาวชาวไทยติดคุกในคดียาเสพติดและทำพาสปอร์ตหายไปเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ทำให้ไม่สามารถกลับประเทศบ้านเกิดได้ ซึ่งภายหลังการสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาวิ่งราวทรัพย์และเป็นชาวต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (29 ก.ย.) กำลังตำรวจจำนวนหนึ่งเข้าทำการควบคุมตัว นายจัสติน วีดา (Mr.Justin Vida) อายุ 34 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้างทองดารณี 1 เลขที่ 65/5 ถ.พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุชิงแหวนเพชรทองคำขาว 1 วง ราคาประมาณ 18,500 บาท ในร้านดังกล่าวแล้ววิ่งหลบหนีไป
นายปีติพงษ์ ตันติชัยรัตนกูล อายุ 26 ปี ลูกชายเจ้าของร้าน ให้การว่า นายจัสติน ได้มาที่ร้านแล้วขอดูแหวนเพชรทองคำขาว โดยอ้างว่า จะซื้อไปหมั้นแฟนสาวชาวไทย จากนั้นก็ออกจากร้านไป แต่แล้ว นายจัสติน ก็เดินทางกลับมาที่ร้านอีกครั้ง พร้อมกับขอดูแหวนวงเดิม แต่เมื่อเผลอ นายจัสติน กลับขโมยแหวนเพชรแล้ววิ่งหนีออกจากร้านไป จึงได้นำหลักฐานภาพใบหน้าคนร้ายจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ดังกล่าว
ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ภายหลังผู้เสียหายนำภาพใบหน้าของคนร้ายมาให้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกตระเวนหาข่าวกระทั่งไปพบนายจัสติน กำลังเดินอยู่ในซอยบัวขาว ย่านพัทยาใต้ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมกับทำการตรวจค้น และพบของกลางซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวา
นายจัสติน ให้การรับสารภาพว่า ได้ขโมยแหวนเพชรดังกล่าวมาจากร้านที่เกิดเหตุจริง และกำลังจะนำไปขาย ส่วนสาเหตุเป็นเพราะไม่มีเงินใช้จ่ายประจำวัน เนื่องจากแฟนสาวชาวไทยติดคุกในคดียาเสพติดและทำพาสปอร์ตหายไปเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ทำให้ไม่สามารถกลับประเทศบ้านเกิดได้ ซึ่งภายหลังการสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาวิ่งราวทรัพย์และเป็นชาวต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป