“เปิ้ล ไอริณ” ร้อง ปคบ.ถูกเต็นท์รถมือสองหลอกขายรถไม่ตรงปี!

“เปิ้ล ไอริณ” ดาราและนางแบบสาวชื่อดังเดินทางเข้าร้องทุกข์ถูกเต็นท์ขายรถมือสองย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา ย้อมแมวขายรถเชฟโรเลต ลูมิน่า ไม่ตรงปี หลังเช็กกับสมุดคู่มือจดทะเบียน ไปทวงถาม ผจก.เต็นท์ อ้างรถปี 2005 แต่จะล้อหมุนเป็นปี 2008 ก่อนเข้าแจ้งความแต่ไม่เป็นผล ให้ทนายยื่นฟ้องไป 8 เดือนก็มาถูกหลอกเงินไปอีก1.5 หมื่น แถมรถใช้ไปไม่กี่เดือนก็ต้องเข้าศูนย์ซ่อม จนทุกวันนี้ก็ยังซ่อมไม่เสร็จ จึงเข้าร้องทุกข์ต่อ ปคบ.ให้ช่วยดำเนินการ

วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) น.ส.ไอริณ ศรีแกล้ว หรือเปิ้ล ไอริณ ดาราและนางแบบสาวชื่อดัง เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบก.ปคบ. กรณีถูกเต็นท์ซื้อขายรถยนต์มือสองแห่งหนึ่ง ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ถ.เลียบด่วนรามอินทรา แขวงคลองจั่น เขตบางกระปิ ขายรถยนต์ไม่ตรงกับที่ประกาศขายไว้และเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้คุณภาพ มิหนำซ้ำเมื่อแจ้งความกับตำรวจท้องที่ก็มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือทางคดีให้กับเจ้าของเต็นท์ด้วย

น.ส.ไอริณกล่าวว่า เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน ปี 2553 ตนต้องการหาซื้อรถยนต์จึงไปหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต พบว่าที่เต็นท์ซื้อขายรถยนต์มือสองแห่งนี้ขายรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต ลูมิน่า ซึ่งเป็นรุ่นที่ต้องการ จึงเดินทางไปดูรถที่เต็นท์และได้พบกับผู้จัดการเต็นท์รถซึ่งเให้ข้อมูลว่าเป็นรถยนต์ปี 2008 และได้ผ่านการตรวจเช็กสภาพรถมาแล้วจึงตัดสินใจซื้อมาในราคาประมาณ 9 แสนบาท แต่หลังจากซื้อได้ 3 วันก็มีการส่งสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์มาให้แต่กลับพบว่าเป็นรถยนต์ปี 2005

น.ส.ไอริณกล่าวต่อว่า เมื่อไปทวงถามความรับผิดชอบ ผู้จัดการเต็นท์ก็บอกว่า รถปี 2005 แต่จะล้อหมุนเป็นปี 2008 ตนจึงไปแจ้งความที่ สน.โชคชัยแต่ก็ไม่เป็นผล

“ฉันมาทราบภายหลังว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาช่วยปิดคดีให้ และผู้จัดการเต็นท์คนนี้ยังท้าทายให้ไปฟ้องเพราะกฎหมายสำหรับเขาไม่ศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้หมายศาลก็เต็มบ้านแล้ว ฉันจึงให้ทนายไปยื่นฟ้องใช้เวลาไป 8 เดือนแต่ก็ถูกทนายหลอกเงินไปอีก 1.5 หมื่นบาทและไม่ได้มีการฟ้องร้องใดๆ ทั้งสิ้นเพราะคดีขาดอายุความไปแล้ว” ดารานางแบบสาวกล่าว

น.ส.ไอริณกล่าวอีกว่า ส่วนรถยนต์คันนี้ที่เขาอ้างว่าตรวจเช็กคุณภาพมาแล้วก็ปรากฏว่าใช้ไปได้ไม่กี่เดือนก็ความร้อนขึ้น แบตเตอรี่หมด จนต้องนำรถเข้าศูนย์ซ่อมจนถึงตอนนี้ก็ยังซ่อมไม่เสร็จ จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมจาก บก.ปคบ.

เบื้องต้น พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชำนาญเดช แตงจุ้ย ผกก.1 บก.ปคบ. และ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ เชื่อมสกุลรัตน์ พงส.(สบ 3) บก.ปคบ. สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน โดยเบื้องต้นพบว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญา ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งได้รวบรวมหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป