รองผบช.น.รับมอบเงินและสิ่งของบริจาคจากตัวแทนบริษัทอุตสาหกรรม ยันสถานการณ์น้ำท่วมใน กทม.ยังไม่น่าเป็นห่วง ส่วนจราจรสายหลักยังใช้ได้ปกติ เนื่องจากมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 20-30 ซม.ย้ำ ไม่อนุญาตให้จอดรถบริเวณสะพานข้ามแยก-จุดกลับรถ หากฝ่าฝืนยกรถออกและปรับ 500 บาท ขณะที่จุดจอดรถของเอกชน 109 จุด มีประชาชนแห่ไปจอดกันจำนวนมาก
วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น.พร้อมด้วยตัวแทนจาก บริษัท อุตสาหกรรมอาหารไทย (1964) จำกัด และบริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยบริจาคอาหารสิ่งของ อุปโภค บริโภคและยารักษาโรคจำนวนหลายรายการ มูลค่าประมาณ 500,000 บาท รวมทั้งเงินสดร่วมสมทบทุนอีกจำนวน 100,000 บาท โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะส่งต่อไปที่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ดอนเมือง (ศปภ.) ต่อไป
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า ขณะนี้การจราจรถนนสายหลักในพื้นที่ กทม.ยังใช้ได้ปกติ รถที่สัญจรไปมายังสามารถวิ่งรถได้ปกติ เนื่องจากมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นแค่ 20-30 ซม.ส่วนในเรื่องของการเตรียมการ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประชุมกำชับจราจรแล้ว ถ้าพื้นที่ใดคาดว่าจะมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ต้องมีป้ายบอกให้ผู้ใช้ถนนทราบก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้ ยังได้กองกำลังเสริมจากกองบังคับการตำรวจจราจรมาช่วยในครั้งนี้
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวอีกว่า ปัญหาน้ำเหนือในพื้นที่ กทม.ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไรนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือปัญหาฝนตกหนักมากกว่า เพราะสถานการณ์ในพื้นที่ กทม ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตมากนัก ส่วนในด้านของสะพานข้ามแยก และที่กลับรถ ถ้าปริมาณน้ำยังไม่ท่วมสูงมากนัก ทางกองบังคับการตำรวจจราจรไม่อนุญาตให้จอดรถ เพราะจะเป็นการกีดขวางเส้นทางเดินรถ ถ้ายังมีการฝ่าฝืนอยู่ จะมีการยกรถออกจากพื้นที่ทันที และปรับเป็นเงินจำนวน 500 บาท ในด้านของรถยนต์หรือรถที่บรรทุกหิน ดิน ทราย หรือสิ่งของอุปโภคบริโภค ที่ขับเคลื่อนเข้ามาจอด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะยกเว้น รวมถึงเรื่องของเวลาในการจอดรถ ให้เข้ามาจอดได้ โดยไม่มีการจับกุมและปรับใดๆ ทั้งสิ้น
พร้อมกันนี้ จุดจอดรถของภาคเอกชน อาทิเช่นห้างสรรพสินค้า โรงแรม ที่ได้ประสานไว้ 109 จุด ขณะนี้มีประชาชนแห่ไปจอดรถกันเป็นจำนวนมาก เพราะจะทำให้ธุรกิจของทางห้างและโรงแรม ไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้ รวมถึงเรื่องการจอดรถบนสะพาน หรือบนทางด่วนโทลล์เวย์ หากยังไม่ถึงขั้นวิกฤติหนักจริงๆ ไม่อนุญาตให้นำรถไปจอด เพราะจะเป็นการสร้างปัญหาจราจร ต่อผู้สัญจรไปมา รวมถึงขบวนต่างๆ ที่จะเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย