กรุ๊ปทัวร์อินเดียโร่เข้าแจ้งความ ถูกคนร้ายเข้าลักทรัพย์ภายในห้องพักโรงแรมรอยัลปาร์ควิว ซอยสุขุมวิท 20 ขณะออกไปเที่ยวชอปปิ้งกลางดึก พอกลับมาห้องพักแต่ละคน เงินสดที่เก็บไว้ในตู้เซฟต่างหาย รวม 1.3 แสนบาท แจ้งพนักงานโรงแรมแต่ถูกเมิน ตั้งข้อสังเกตโรงแรมไม่มีกล้องวงจรปิดตั้งแต่ทางเข้าจนถึงห้องพัก เชื่อไม่น่ามีหลักฐานเอาผิดคนร้ายได้
วันนี้ (14 ต.ค.) เมื่อเวลา 02.00 น. ที่ สน.ทองหล่อ นายฮาดาซานี เจกูมาร์ กูร์บัค อายุ 35 ปี สัญชาติอินเดีย พร้อมเพื่อนผู้เสียหายรวม 10 คน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.สุชิน พงษ์คำพันธ์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทองหล่อ หลังคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 130,000 บาทในห้องพักที่โรงแรมรอยัลปาร์ควิว ซอยสุขุมวิท 20 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา ออกไปเที่ยวช็อปปิ้ง
นายฮาดาซานีกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับเพื่อนชาวอินเดียประมาณ 100 คน ซื้อทัวร์มาเที่ยวประเทศไทย มาถึงไทยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นก็เดินทางไปเที่ยวที่พัทยาเป็นเวลา 2 วัน และกลับ กทม.มาพักที่โรงแรมดังกล่าวจนช่วงบ่ายวันที่ 13 ต.ค. พร้อมจะนำทรัพย์สินไปเก็บไว้ในตู้เซฟในห้องพัก แต่ไม่สามารถเปิดตู้เซฟได้จึงแจ้งมาแก้ไขจนสามารถนำทรัพย์ไปเก็บได้ ซึ่งมีเงินดอลลาร์สิงคโปร์ และเงินรูปีอีกจำนวนหนึ่ง แล้วออกไปเที่ยวช็อปปิ้งกันตามปกติ ก่อนจะกลับเข้ามาที่โรงแรมในช่วงกลางดึก
“พอกลับถึงห้องพัก ก็หยิบเงินออกมานับตามความเคยชิน แต่ปรากฏว่า เงินสดหายไปจำนวนหนึ่ง จึงรีบออกไปสอบถามเพื่อนร่วมกรุ๊ปทัวร์ว่าเงินของใครหายไปบ้าง ก็พบว่ามีทั้งหมดอีก 10 ห้อง ที่ถูกคนร้ายเข้าไปขโมยเงิน ซึ่งมีทั้งเงินสกุลรูปี เงินบาทไทย เงินดอลลาร์สหรัฐ เงินดอลลาร์สิงคโปร์และเงินดอลลาร์ฮ่องกง รวมมูลค่าเงินที่สูญหายไปประมาณ 130,000 บาท จึงรีบแจ้งพนักงานโรงแรมแต่พนักงานคนดังกล่าว กลับบอกให้พวกผมกลับไปพักผ่อนที่ห้องพัก แล้วตอนเช้าค่อยกลับมาคุยกันใหม่ พวกตนจึงขอเบอร์โทรศัพท์ของสถานีตำรวจเพื่อจะโทรศัพท์ไปแจ้งความ แต่พนักงานคนเดิมกลับปฏิเสธไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ พวกผมจึงพากันออกมานอกโรงแรมแล้วขอเบอร์โทรศัพท์สถานีตำรวจจากโชเฟอร์แท็กซี่ แล้วพากันมาแจ้งความทันที” นายฮาดาซานีกล่าว
นายฮาดาซานียังตั้งข้อสังเกตในการถูกขโมยว่า จากการพูดคุยกับเพื่อนร่วมกรุ๊ปทัวร์อย่างละเอียด พบว่า ทั้ง 10 ห้องที่ถูกขโมยจะเอาคีย์การ์ดกับกุญแจห้องติดตัวออกไปด้วย และคนร้ายจะหยิบทรัพย์สินออกไปเพียงบางส่วนหากไม่ตรวจสอบจะไม่ทราบ ส่วนคนที่เอากุญแจห้องไปฝากไว้ที่พนักงานของโรงแรม กับคนที่เอาคีย์การ์ดเสียบในช่องเพื่อเปิดแอร์ทิ้งไว้แล้วเอาแต่กุญแจห้องติดตัวไปนั้น ทรัพย์สินจะไม่หายเลย และจากการตรวจดูในโรงแรมก็ไม่พบว่ามีกล้องวงจรปิดเลยตั้งแต่ทางเข้าโรงแรมไปจนถึงห้องพักจึงไม่น่าจะมีหลักฐานเอาผิดกับคนร้ายได้ แต่ยังไม่รู้ว่ามีเพื่อนร่วมกรุ๊ปอีกกี่คนที่ถูกลักทรัพย์ไป คงจะต้องรอสอบถามตอนเช้าเพราะบางคนก็พักผ่อนอยู่ ตอนนี้ทั้งหมดเห็นว่าอยากย้ายโรงแรมให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย
ด้าน ร.ต.ท.สุชินกล่าวว่า เบื้องต้นจะรับแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และรอให้ตรวจสอบจำนวนผู้เสียหายให้แน่ชัดเสียก่อนว่ามีทั้งหมดกี่ราย ก่อนจะประสานให้ทางฝ่ายสืบสวน ดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายต่อไป