(***) กองควบคุมอาคาร สำนักงานโยธา กทม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบอาคารคอนโดมิเนียมเลอรัฟฟิเน่ ซอยสุขุมวิท 24 ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวานนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง คาดว่าภายในวันนี้จะทราบผล พร้อมสั่งการให้เขตคลองเตยทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของอาคาร ให้งดใช้และห้ามเข้าใช้อาคาร จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบด้านความปลอดภัย
เบื้องต้น เจ้าของอาคารได้เปิดโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงให้กับผู้อยู่อาศัยในคอนโด ประมาณ 100 คน และเช้าวันนี้ เริ่มมีเจ้าของห้องในอาคารชั้นต่างๆ ขออนุญาตเข้าไปตรวจสอบสิ่งของและทรัพย์สิน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาต เนื่องจากไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย
ส่วนกรณีที่มีการถกเถียง ที่ระบุว่า ห้องที่เกิดเหตุ ชั้นที่ 18 สปริงเกอร์ไม่ทำงานนั้น แพทย์หญิงมาลินี กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ และผู้จัดการอาคาร พบว่า สปริงเกอร์ทำงานตามปกติ แต่ขณะที่แม่บ้านขึ้นไปในชั้นดังกล่าวอาจจะตกใจและให้ข้อมูลว่าสปริงเกอร์ไม่ทำงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยขึ้นไปพบว่า สปริงเกอร์มีร่องรอยการทำงาน ทั้งนี้คาดว่า สปริงเกอร์ของอาคารใช้ระบบฮีต ซึ่งระบบจะทำงานในอุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส แต่ช่วงที่แม่บ้านเห็นนั้น อุณหภูมิยังไม่ถึง และมีกลุ่มควันมาก อาจจะทำให้เครื่องทำงานได้ช้าลง
พร้อมกันนี้ แพทย์มาลินีสั่งการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ตรวจสอบอาคารสูงในพื้นที่ให้มีระบบป้องกันเหตุเพลิงไหม้ รัดกุมมากขึ้น ทั้งบันไดหนีไฟ ถังดับเพลิง และสปริงเกอร์ ต้องตรวจสอบให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา
ด้านการดำเนินคดี พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า จะเร่งสอบปากคำพยานบุคคล ได้แก่ กลุ่มนิติบุคคลประจำอาคาร เจ้าของห้องพักต้นเพลิง ซึ่งได้รับบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิง ซึ่งจะสอบประเด็นขณะเข้าระงับเหตุ ระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโด ว่ามีการแจ้งเหตุ และระบบสปริงเกอร์ทำงานหรือไม่ รวมทั้งเรื่องของตัวอาคาร ปฏิบัติตามระเบียบ กทม.หรือไม่ ขณะที่ กลุ่มนิติบุคคล จะสอบประเด็นซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัย และติดตั้งระบบเตือนภัยบนอาคารหรือไม่
นอกจากนี้ จะตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับอาคารทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน สามารถสรุปสำนวนได้ ส่วนสาเหตุต้องรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน
เบื้องต้น เจ้าของอาคารได้เปิดโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงให้กับผู้อยู่อาศัยในคอนโด ประมาณ 100 คน และเช้าวันนี้ เริ่มมีเจ้าของห้องในอาคารชั้นต่างๆ ขออนุญาตเข้าไปตรวจสอบสิ่งของและทรัพย์สิน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาต เนื่องจากไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย
ส่วนกรณีที่มีการถกเถียง ที่ระบุว่า ห้องที่เกิดเหตุ ชั้นที่ 18 สปริงเกอร์ไม่ทำงานนั้น แพทย์หญิงมาลินี กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ และผู้จัดการอาคาร พบว่า สปริงเกอร์ทำงานตามปกติ แต่ขณะที่แม่บ้านขึ้นไปในชั้นดังกล่าวอาจจะตกใจและให้ข้อมูลว่าสปริงเกอร์ไม่ทำงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยขึ้นไปพบว่า สปริงเกอร์มีร่องรอยการทำงาน ทั้งนี้คาดว่า สปริงเกอร์ของอาคารใช้ระบบฮีต ซึ่งระบบจะทำงานในอุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส แต่ช่วงที่แม่บ้านเห็นนั้น อุณหภูมิยังไม่ถึง และมีกลุ่มควันมาก อาจจะทำให้เครื่องทำงานได้ช้าลง
พร้อมกันนี้ แพทย์มาลินีสั่งการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ตรวจสอบอาคารสูงในพื้นที่ให้มีระบบป้องกันเหตุเพลิงไหม้ รัดกุมมากขึ้น ทั้งบันไดหนีไฟ ถังดับเพลิง และสปริงเกอร์ ต้องตรวจสอบให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา
ด้านการดำเนินคดี พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า จะเร่งสอบปากคำพยานบุคคล ได้แก่ กลุ่มนิติบุคคลประจำอาคาร เจ้าของห้องพักต้นเพลิง ซึ่งได้รับบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิง ซึ่งจะสอบประเด็นขณะเข้าระงับเหตุ ระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโด ว่ามีการแจ้งเหตุ และระบบสปริงเกอร์ทำงานหรือไม่ รวมทั้งเรื่องของตัวอาคาร ปฏิบัติตามระเบียบ กทม.หรือไม่ ขณะที่ กลุ่มนิติบุคคล จะสอบประเด็นซักซ้อมแผนรักษาความปลอดภัย และติดตั้งระบบเตือนภัยบนอาคารหรือไม่
นอกจากนี้ จะตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับอาคารทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน สามารถสรุปสำนวนได้ ส่วนสาเหตุต้องรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐาน
