ฆ่าปาดคอโชเฟอร์แท็กซี่ดับอนาถ!

โชเฟอร์แท็กซี่หนุ่มใหญ่ถูกคนร้ายฆ่าปาดคอ ทิ้งศพในซอยเปลี่ยวย่านสะพานสูง ตำรวจคาดปมสังหารมาจากเรื่องชิงทรัพย์ ขณะที่พยานระบุก่อนเกิดเหตุพบชายวัยรุ่น 2 คนมีท่าทีพิรุธเดินออกมาจากซอยที่เกิดเหตุ

วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.ท.เหรียญชัย เหล่าที พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน. บางชัน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกฆ่าปาดคอเหตุเกิดภายในซอยกาญจนา 7 หรือซอยสะพานขาด แขวงและเขตสะพานสูง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจาหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบศพนายประสงค์ รุณเกษม อายุ 61 ปี สภาพศพนอนหงายไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ที่บริเวณหน้าอกมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม กว้างประมาณ 2 นิ้ว ขณะเดียวกัน พบบริเวณลำคอมีบาดแผลถูกปาดด้วยของมีคมจนเป็นแผลลึกตัดหลอดลมและเส้นเลือดใหญ่ขาด นอนเสียชีวิตจมกองเลือด เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชม. นอกจากนี้ พบที่ข้อมือซ้ายสวมนาฬิกา 1 เรือน ลักษณะกำลังถูกถอดออก ใกล้กันพบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู ทศ-8918 กรุงเทพมหานคร ประตูฝั่งคนขับเปิดอยู่ ภายในรถพบวิทยุยังเปิดอยู่ มิเตอร์ระบุราคา 490 บาท ระยะเวลา 3 ชม.45 นาที ระยะทาง 34.6 กม. ภายในรถยังพบสำเนาบัตรพนักงานขับรถสำนักงบประมาณ ซึ่งหมดอายุปี 2553 บริเวณเบาะคนขับมีเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงิน เสื้อยืดสีขาววางอยู่บนเบาะ ภายในรถพบร่องการต่อสู้ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝง รวมทั้งตรวจพิสูจน์หาหลักฐานอย่างละเอียด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังสหกรณ์แท็กซี่ของรถคันดังกล่าว ทราบว่านายประสงค์พักอาศัยอยู่ที่ห้อง 210 ดุสิตคอนโดมิเนียม ใกล้กับ สน.ดุสิต ขณะเดียวกันได้ติดต่อนางสุรีย์ มาศิริ อายุ 49 ปี ภรรยาผู้ตาย โดยนางสุรีย์ให้การว่า ตนอยู่กินกับผู้ตายมากว่า 10 ปีแล้ว ผู้ตายมีลูกติดมา 2 คน ปกติจะออกไปขับแท็กซี่ประมาณ 10 วันจึงจะกลับบ้าน 1 ครั้ง โดยผู้ตายจะเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวไปด้วย เพราะต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตามปั๊มน้ำมัน สำหรับวันนี้เป็นวันที่ 10 ที่ผู้ตายออกจากบ้าน กระทั่งได้รับข่าวร้ายว่าสามีถูกคนร้ายปาดคอเสียชีวิต

จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังขี่จักรยานยนต์เข้าไปภายในซอยที่เกิดเหตุ ได้พบผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัยรุ่น 2 คนแต่งกายสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ มีท่าทีพิรุธ เดินออกจากซอยดังกล่าวไปเรียกแท็กซี่ สำหรับซอยดังกล่าวเป็นซอยเปลี่ยวไม่ค่อยมีใครเข้าออก เนื่องจากเป็นทางลัดไปมีนบุรี เมื่อตนเข้ามาภายในซอยจึงพบศพผู้ตาย จึงได้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะถูกฆ่าชิงทรัพย์ ซึ่งจะทำการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตายว่ามีทรัพย์สินอะไรสูญหายไปบ้าง และจะเรียกญาติรวมทั้งคนรู้จักผู้ตาย มาสอบปากคำ ขณะเดียวกันจะทำการตรวจสอบว่ารถแท็กคันดังกล่าววิ่งมาจากจุดไหน อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นๆ ทิ้งไป นอกจากนี้จะให้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป