กระบี่ - คนร้ายบุกฆ่าปาดคอชิงทรัพย์เศรษฐินี เจ้าของสวนยางและสวนปาล์มน้ำมัน พร้อมเชิดรถเก๋งของผู้ตายหลบหนี
วันนี้ (18 ส.ค.) พ.ต.ท.ขจิตร คงปราบ พนักงานสอบสวน สภ.เขาพนม จ.กระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุฆ่ากันตายภาย ในบ้านเลขที่ 261 หมู่ 4 ต.โคกหาร อ.เขาพนม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ภายในสวนปาล์มน้ำมัน และสวนยางหลายร้อยไร่ และอยู่ห่างไกลจากบ้านของคนอื่น
บริเวณหน้าห้องนอน พบศพเจ้าของบ้านทราบชื่อ นางมลฤดี ชำนาญกิจ อายุ 32 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพสวมเสื้อสีแสด นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินบริเวณลำคอถูกของมีคม ปาดคอหวิดขาด หน้าอกและหน้าท้อง มีรอยถูกแทงพรุน รวม 13 แผล เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านหายไป ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กง 3108 สุราษฎร์ธานี ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ารถคันที่หายไป คนร้ายได้ขับไปจอดทิ้งไว้ริมถนนห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร สาเหตุเนื่องจากรถหมดน้ำมัน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว เพราะลูกๆ ไปโรงเรียน ส่วนสามีขับรถไปส่งต้นกล้ายางพาราในจังหวัดทางภาคอีสาน หลายวันแล้ว คาดว่า คนร้ายคงรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี โดยอาศัยช่วงที่ผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว จึงบุกเข้าชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายขัดขืน หรือไม่ก็รู้จักกับคนร้าย จึงได้ทำการฆ่าปิดปากและขนทรัพย์สินหลบหนี เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุของการสังหารเศรษฐินีรายนี้ เนื่องจากคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์สิน ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุด มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปทำการสอบสวนแล้ว 1 คน
วันนี้ (18 ส.ค.) พ.ต.ท.ขจิตร คงปราบ พนักงานสอบสวน สภ.เขาพนม จ.กระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุฆ่ากันตายภาย ในบ้านเลขที่ 261 หมู่ 4 ต.โคกหาร อ.เขาพนม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่ภายในสวนปาล์มน้ำมัน และสวนยางหลายร้อยไร่ และอยู่ห่างไกลจากบ้านของคนอื่น
บริเวณหน้าห้องนอน พบศพเจ้าของบ้านทราบชื่อ นางมลฤดี ชำนาญกิจ อายุ 32 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด สภาพสวมเสื้อสีแสด นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินบริเวณลำคอถูกของมีคม ปาดคอหวิดขาด หน้าอกและหน้าท้อง มีรอยถูกแทงพรุน รวม 13 แผล เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านหายไป ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กง 3108 สุราษฎร์ธานี ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ารถคันที่หายไป คนร้ายได้ขับไปจอดทิ้งไว้ริมถนนห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร สาเหตุเนื่องจากรถหมดน้ำมัน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว เพราะลูกๆ ไปโรงเรียน ส่วนสามีขับรถไปส่งต้นกล้ายางพาราในจังหวัดทางภาคอีสาน หลายวันแล้ว คาดว่า คนร้ายคงรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี โดยอาศัยช่วงที่ผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว จึงบุกเข้าชิงทรัพย์ แต่ผู้ตายขัดขืน หรือไม่ก็รู้จักกับคนร้าย จึงได้ทำการฆ่าปิดปากและขนทรัพย์สินหลบหนี เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุของการสังหารเศรษฐินีรายนี้ เนื่องจากคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์สิน ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุด มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปทำการสอบสวนแล้ว 1 คน